Page 344 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 344

มลายเขา
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                   พบที่อินเดีย เนปำล ภูฏำน พม่ำ จีนตอนใต้ เวียดนำมตอนบน ในไทยพบทำง
                ภำคเหนือ ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ภำคตะวันตกเฉียงใต้ และภำคใต้ ขึ้นตำมคบไม้
                หรือบนหินปูนในป่ำดิบเขำ ควำมสูงถึงประมำณ 2000 เมตร แยกเป็น var.
                pterocaulis C. Y. Wu ex W. T. Wang ล�ำต้นมีเหลี่ยมเป็นปีก พบที่จีนและเวียดนำม
                   สกุล Lysionotus D. Don มีประมาณ 25 ชนิด ส่วนมากพบในจีน ในไทยมีชนิดเดียว
                   ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “lysis” ปล่อย และ “notos” สีดำา หมายถึงการแตกของผล
                  เอกสารอ้างอิง
                   Wang, W., K.Y. Pan, Z.Y. Li, A.L. Weitzman and L.E. Skog. (1998). Gesneriaceae.
                      In Flora of China Vol. 18: 392.                 มลายเขา: ดอกออกตำมซอกใบ กลีบดอกบำง ก้ำนดอกหนำ กลีบเลี้ยงพับงอกลับ รังไข่เป็นสันนูน มีขนสั้นนุ่ม
                                                                     ผลแห้งแล้วแยกเป็น 5 ซีก มีปีก (ภำพ: แก่งกระจำน เพชรบุรี - RP)
                                                                     ม่วงกำามะหยี่
                                                                     Petrocosmea pubescens D. J. Middleton & Triboun
                                                                     วงศ์ Gesneriaceae
                                                                       ไม้ล้มลุก มีขนสั้นนุ่มหนาแน่นตามเหง้า แผ่นใบ ก้านใบ ช่อดอก กลีบเลี้ยง
                                                                     และกลีบดอกด้านนอก ใบรูปกลมหรือรูปไข่กว้ำง ยำว 4-9 ซม. ปลำยกลม โคนใบ
                                                                     แบบก้นปิด เส้นแขนงใบข้ำงละ 3-5 เส้น ก้ำนใบยำว 8-20 ซม. ใบอ่อนสีเงิน ช่อดอก
                                                                     คล้ายช่อซี่ร่มออกจากเหง้า 1-2 ดอก ก้ำนช่อยำว 4.5-7.5 ซม. ก้ำนดอกยำว
                                                                     0.7-1.7 ซม. กลีบเลี้ยงรูปปากเปิด ยำวประมำณ 5 มม. กลีบรูปแถบ กลีบบน 2 กลีบ
                  มณีจันทร์: ช่อดอกแบบช่อกระจุก โคนหลอดกลีบดอกเรียวแคบครึ่งล่ำง ช่วงปลำยป่อง กลีบเลี้ยงแยกจรดโคน ติดทน
                ผลรูปแถบ (ภำพ: ดอยตุง เชียงรำย; ภำพดอก - RP, ภำพผล - MB)   แยกกัน 3 กลีบล่ำงเชื่อมติดกันประมำณ 2 มม. ดอกสีม่วงเข้ม หลอดกลีบดอก
                                                                     ยำวประมำณ 4.5 มม. ด้ำนในมีต่อมเล็ก ๆ กลีบปำกบนยำว 6-8.5 มม. แฉกลึก
                มลายเขา                                              กลีบล่ำงยำว 10-12.5 มม. กลีบรูปรีกว้ำง กลีบกลำงยำวประมำณ 8 มม. กลีบคู่ข้ำง
                Burretiodendron esquirolii (H. Lév.) Rehder          ยำวกว่ำเล็กน้อย อับเรณูยำวประมำณ 4 มม. มีต่อมกระจำย เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน
                วงศ์ Malvaceae                                       3 อัน รังไข่มีขนและต่อมหนาแน่น ก้ำนเกสรเพศเมียยำว 8.5 มม. (ดูข้อมูล
                  ชื่อพ้อง Pentace esquirolii H. Lév.                เพิ่มเติมที่ ขำวก�ำมะหยี่, สกุล)
                   ไม้ต้น ผลัดใบ สูง 10-15 ม. แยกเพศต่ำงต้น กิ่งอ่อนมีขนรูปดาวหนาแน่น   พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคเหนือที่ดอยตุง จังหวัดเชียงรำย ขึ้นบนหินปูน
                หูใบขนำดเล็ก ร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน รูปรี ยำว 6-15 ซม. ช่วงปลำยบำงครั้งจักตื้น ๆ   ในป่ำดิบเขำ ควำมสูง 1300-1400 เมตร
                3 แฉก ปลำยแหลมยำว โคนกลมหรือเว้ำตื้น เส้นโคนข้างละ 2-3 เส้น เส้นแขนงใบ  เอกสารอ้างอิง
                ข้ำงละ 2-4 เส้น ก้ำนใบยำว 2-5 ซม. ดอกเพศผู้ออกเป็นกระจุก 1-3 ดอก ดอกเพศเมีย  Middleton, D.J. and P. Triboun. (2010). Two new species of Petrocosmea
                ออกเดี่ยว ๆ ก้ำนดอกหนำ ใบประดับรูปไข่ 2 ใบ ติดใต้กลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ   (Gesneriaceae) from Thailand. Thai Forest Bulletin (Botany) 38: 44-47.
                รูปใบหอก พับงอกลับ ยำวประมำณ 1 ซม. ดอกสีครีม มี 5 กลีบ รูปรี ยำว 1-1.2 ซม.
                เกสรเพศผู้จ�านวนมาก แยกเป็น 5 กลุ่ม อับเรณูติดที่ฐำน ไม่มีเกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน
                ในดอกเพศเมีย รังไข่ 5 ช่อง เป็นสันนูน มีขนสั้นนุ่ม เป็นหมันในดอกเพศผู้ เกสรเพศเมีย
                5 อัน แยกกัน ผลแห้งแล้วแยกเป็น 5 ซีก มีปีก รูปรีหรือรูปขอบขนำน ยำว 4-6 ซม.
                แต่ละซีกมีเมล็ดเดียว รูปไข่กลับ ยำวประมำณ 1 ซม.
                   พบที่จีนตอนใต้ พม่ำตอนล่ำง และทำงภำคตะวันตกเฉียงใต้ของไทยที่กำญจนบุรี
                เพชรบุรี รำชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นตำมป่ำดิบแล้ง ควำมสูงระดับต�่ำ ๆ

                   สกุล Burretiodendron Rehder เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Tiliaceae ปัจจุบันอยู่วงศ์ย่อย
                   Dombeyoideae มีประมาณ 7 ชนิด พบที่จีนตอนใต้ พม่า เวียดนามตอนบน ในไทย  ม่วงก�ามะหยี่: ส่วนต่ำง ๆ มีขนสั้นนุ่ม โคนใบแบบก้นปิด ก้ำนใบยำว ช่อดอกออกจำกเหง้ำ มี 1-2 ดอก กลีบดอก
                   อาจมีชนิดเดียว B. siamense Kosterm. อาจเป็นชื่อพ้องของมลายเขา ส่วน    รูปปำกเปิด (ภำพ: ดอยตุง เชียงรำย - PK)
                   B. umbellatum Kosterm. เป็นชื่อพ้องของ Mansonia gagei J. R. Drumm. ชื่อสกุล  ม่วงไตรบุญ, สกุล
                   ตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน Karl Ewald Maximilian Burret (1883-1964)
                                                                     Tribounia D. J. Middleton
                  เอกสารอ้างอิง                                      วงศ์ Gesneriaceae
                   Phengklai, C. (1993). Tiliaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(1): 56-59.
                   Tang, Y., M.G. Gilbert and L.J. Dorr. (2007). Tiliaceae. In Flora of China Vol.   ไม้ล้มลุก ใบเรียงตรงข้ำม ช่อดอกแบบช่อกระจุกซ้อน ออกตำมซอกใบหรือปลำยกิ่ง
                      12: 262.                                       กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกเกือบจรดโคน ติดทน ดอกรูปแตรสีม่วง สมมำตรด้ำนข้ำง
                   Zhuge, R. (1990). On the genus Burretiodendron sensu lato (Tiliaceae). Journal
                      of the Arnold Arboretum 71: 371-380.           มี 5 กลีบ กลีบคู่ล่างเว้าเป็นแอ่งรับเกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ 2 อัน เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน
                                                                     2 อัน ก้านชูอับเรณูแผ่กว้าง มีเกสรเพศผู้ที่ลดรูปขนาดเล็ก 1 อัน ระหว่างคู่ที่
                                                                     เป็นหมันหรือไม่มี จำนฐำนดอกเป็นวง รังไข่รูปทรงกระบอก มีก้ำน มี 2 คำร์เพล
                                                                     พลำเซนตำตำมแนวตะเข็บ 2 แนว ออวุลจ�ำนวนมำก ก้ำนเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสร
                                                                     เป็นตุ่ม ผลแห้งแตกกลำงพู รูปกระสวย ห้อยลง เมล็ดจ�ำนวนมำก รูปรีขนำดเล็ก
                                                                     เป็นสันตำมยำว มีปุ่มกระจำย

                                                                       สกุล Tribounia แยกมาจากสกุล Didymocarpus ตามลักษณะกลีบดอกคู่ล่าง
                                                                       เว้าเป็นแอ่งรับเกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์ 2 อัน ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม ผลมีก้าน
                                                                       ยาวห้อยลง ไม่บิดเป็นเกลียว เป็นสกุลที่พบเฉพาะในไทย มี 2 ชนิด ชื่อสกุลตั้ง
                                                                       ตามชื่อ ดร.ปราโมทย์ ไตรบุญ ผู้ร่วมวิจัยพืชวงศ์ Gesneriaceae ของไทย

                324






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   324                                                                 3/1/16   6:13 PM
   339   340   341   342   343   344   345   346   347   348   349