Page 349 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 349
มะกล�่าเผือก
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
มหาพรหม สกุล Abrus อยู่ใต้วงศ์ย่อย Faboideae เผ่า Abreae ซึ่งเป็นสกุลเดียวของเผ่า
Mitrephora winitii Craib มีประมาณ 17 ชนิด ในไทยมี 3 ชนิด ชนิด A. fruticulosus Wight & Arn. พบที่
ชัยภูมิ และมุกดาหาร ใบเรียวแคบ ช่อดอกไม่หนาแน่น ชื่อสกุลน่าจะมาจาก
ไม้ต้น สูง 8-10 ม. เปลือกเรียบ กิ่งแตกเป็นร่องร่างแห มีช่องอากาศ มีขนสั้นนุ่ม ภาษากรีก “habros” นุ่มนวล ตามลักษณะของใบ
สีน�้าตาลแดงตามปลายกิ่ง ก้านใบ เส้นกลางใบ ช่อดอก ใบประดับ กลีบเลี้ยง
ด้านนอก และผล ใบรูปขอบขนำน รูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยำว 6-20 ซม. มะกล่ำาตาหนู
ปลำยแหลมยำว โคนเว้ำตื้น เบี้ยวเล็กน้อย แผ่นใบด้ำนล่ำงมีขนประปรำย เส้นแขนงใบ
ข้ำงละ 12-20 เส้น ก้ำนใบยำว 3-5 มม. ช่อดอกส่วนมากมีดอกเดียว ก้ำนช่อยำว Abrus precatorius L.
1-1.5 ซม. ดอกเกือบไร้ก้ำน ใบประดับรูปไข่ ยำว 5-8 มม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยำว ไม้เถำ มีขนประปรำยกระจำยทั่วไป ขนหนำแน่นตำมช่อดอก กลีบเลี้ยงด้ำนนอก
ได้ถึง 1 ซม. กลีบดอกวงนอกสีขำว รูปรีกว้ำง ยำวได้ถึง 4 ซม. วงในสีชมพูอมม่วง และผล หูใบยำว 3-5 มม. ใบประกอบมีใบย่อย 8-16 คู่ ก้ำนใบยำว 0.5-2 ซม.
รูปไข่ ยำวประมำณ 1.5 ซม. โคนรูปเงี่ยงลูกศร ผลย่อยมี 10-16 ผล รูปรีกว้ำง ใบย่อยรูปขอบขนำน ยำว 0.5-2 ซม. ปลำยตัด มีติ่งหรือมน โคนกลม ก้ำนใบยำว
ยำว 2-2.5 ซม. ผิวย่น ประมำณ 1 มม. ช่อดอกยำว 2-8 ซม. ใบประดับและใบประดับย่อยยำว 0.5-1 มม.
พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคตะวันตกเฉียงใต้ที่กำญจนบุรี เพชรบุรี ดอกสีม่วง กลีบกลำงรูปรี ยำวประมำณ 1 ซม. มีก้ำน ปลำยเว้ำ กลีบปีกและคู่ล่ำง
ประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นตำมป่ำดิบแล้งหรือบนเขำหินปูน ควำมสูง 100-150 เมตร เรียวแคบกว่ำ รังไข่และก้ำนเพศเมียมีขนหนำแน่น ฝักรูปขอบขนำน ยำว 2-4 ซม.
มี 2-6 เมล็ด เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 มม. โคนสีด�า ช่วงปลายสีแดง
มหาพรหมราชินี พบทั่วไปในเขตร้อน ขึ้นตำมชำยป่ำและเขำหินปูน ควำมสูงถึงประมำณ 700
Mitrephora sirikitiae Weeras., Chalermglin & R. M. K. Saunders เมตร เมล็ดแข็งเป็นมันวำว มีพิษร้ำยแรงถึงชีวิต ใช้ท�ำเครื่องประดับ ส่วนอื่น ๆ มี
ไม้ต้น สูง 6 ม. กิ่งอ่อนมีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ใบรูปใบหอก ยำว 6-22 ซม. สรรพคุณด้ำนสมุนไพรหลำยอย่ำง
ปลำยแหลมหรือแหลมยำว โคนแหลมหรือมน แผ่นใบด้ำนล่ำงเป็นมันวำว มีขนกระจำย
เส้นแขนงใบข้ำงละ 8-11 เส้น ก้ำนใบยำว 0.5-1 ซม. ช่อดอกมีขนก�ามะหยี่ มี มะกล่ำาเผือก
1-3 ดอก ก้ำนดอกยำว 1.8-2.7 ซม. ใบประดับรูปไข่ ยำว 5-7 มม. กลีบรูปไข่กว้ำง Abrus pulchellus Wall. ex Thwaites
ยำว 1.3-1.5 ซม. มีขนสีน�้าตาลแดงหนาแน่น กลีบดอกวงนอกสีขำว รูปไข่กว้ำง ไม้เถำ หูใบรูปใบหอก ยำว 5-7 มม. ใบประกอบมีใบย่อย 4-7 คู่ ก้ำนใบยำว
ยำว 4-5.5 ซม. วงในสีชมพูอมม่วง รูปไข่ สั้นกว่าวงนอกเล็กน้อย โคนรูปเงี่ยงลูกศร 2-3 ซม. ใบย่อยรูปขอบขนำนหรือแกมรูปไข่กลับ ยำว 3.2-4.5 ซม. ปลำยมนหรือ
ผลย่อยมี 10-15 ผล รูปขอบขนำน ยำว 5-6 ซม. มีขนละเอียด ก้ำนยำว 1.5-2.5 ซม. เป็นติ่งแหลม โคนเบี้ยวหรือรูปหัวใจ แผ่นใบด้ำนล่ำงมีขนสีขำวประปรำย ก้ำนใบ
พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคเหนือที่แม่ฮ่องสอน ขึ้นตำมป่ำดิบเขำที่เป็น ยำว 1-1.5 มม. มีขนหนำแน่น ช่อดอกยำว 4-9 ซม. ดอกรูปเคียว สีชมพูอมม่วง
หินปูน ควำมสูง 1000-1100 เมตร คล้ำยกับมหำพรหม แต่ดอกมีขนำดใหญ่กว่ำ กลีบกลางสีขาว รูปรี ยำว 1.2-1.3 ซม. ปลำยเว้ำตื้น กลีบปีกและกลีบคู่ล่ำงสั้น
กว่ำกลีบปำก มีรยำงค์เป็นติ่ง โคนเรียวสอบ คอดคล้ำยก้ำนกลีบ รังไข่และก้ำน
เอกสารอ้างอิง
Craib, W.G. (1922). Contributions to the Flora of Siam. Bulletin of Miscellaneous เกสรเพศเมียมีขนหนำแน่น ฝักรูปขอบขนำน ยำว 4-8 ซม. มี 4-12 เมล็ด รูปรี
Information Kew 1922: 227. แบนเล็กน้อย สีน�้าตาลด�า
Weerasooriya, A.D., P. Chalermglin & R.M.K. Saunders. (2004). Mitrephora
sirikitiae (Annonaceae): a remarkable new species endemic to northern พบที่อินเดีย เนปำล ภูฏำน บังกลำเทศ ศรีลังกำ จีนตอนใต้ พม่ำ ภูมิภำคอินโดจีน
Thailand. Nordic Journal of Botany 24(2): 201-206. และมำเลเซีย ฟิลิปปินส์ นิวกินี ในไทยพบทุกภำค ขึ้นตำมป่ำดิบชื้น และป่ำดิบแล้ง
ควำมสูงระดับต�่ำ ๆ แยกเป็น subsp. cantoniensis (Hance) Verdc. และ subsp.
mollis (Hance) Verdc. ตำมสิ่งปกคลุม ขนำดใบ โคนใบ และควำมยำวของฝัก
เอกสารอ้างอิง
Bao, B. and M. Gilbert. (2010). Fabaceae (Abrus). In Flora of China Vol. 10: 194.
Verdcourt, B. (1979). A manual of New Guinea legumes. Botany Bulletin 11:
515-529.
มหาพรหม: กลีบดอก 6 กลีบ เรียง 2 วง วงในมีก้ำนกลีบ ปลำยจรดกันรูปโดม ผลย่อยไร้ก้ำน (ภำพดอก: น�้ำตกห้วยยำง
ประจวบคีรีขันธ์ - RP; ภำพผล: ประจวบคีรีขันธ์ - PK)
มะกล�่าตาหนู: ใบประกอบมีใบย่อย 8-16 คู่ ช่อดอกแบบช่อกระจะ ช่อย่อยแบบช่อกระจุก ดอกหนำแน่น ดอกสีม่วง
มหาพรหมราชินี: ใบรูปใบหอก ปลำยแหลมยำว ดอกคล้ำยมหำพรหมแต่ขนำดใหญ่กว่ำ (ภำพ: แม่ฮ่องสอน - KJ)
เมล็ดโคนสีด�ำ ช่วงปลำยสีแดง (ภำพดอก: ลพบุรี, ภำพผล: นครสวรรค์; - RP)
มะกล่ำาตาหนู, สกุล
Abrus Adans.
วงศ์ Fabaceae
ไม้พุ่มหรือไม้เถำ ใบประกอบปลายคู่ เรียงเวียน ปลายแกนใบมักมีขนแข็ง 1 อัน
ใบย่อยเรียงตรงข้ำม ไม่มีหูใบย่อย ช่อดอกแบบช่อกระจะออกตำมปลำยกิ่งหรือ
ซอกใบใกล้ปลำยกิ่ง ดอกออกเป็นกระจุกแน่นเป็นช่อสั้น ๆ ใบประดับขนำดเล็ก
กลีบเลี้ยงรูปถ้วย จักซี่ฟันตื้น ๆ ดอกรูปดอกถั่ว กลีบกลำงก้ำนกลีบแนบติดแผ่น
เกสรเพศผู้ เกสรเพศผู้ 9 อัน เชื่อมติดกันเป็นแผ่น แยกกันช่วงปลาย ไม่มีอันตรงข้าม
กลีบกลาง (vexillary stamen) อับเรณูติดด้ำนหลัง รังไข่มีออวุลจ�ำนวนมำก ฝักแบน มะกล�่าเผือก: ใบประกอบมีใบย่อย 4-7 คู่ กลีบดอกสีชมพูอมม่วง กลีบกลำงสีขำว ปลำยเว้ำ อับเรณูสีเหลือง ฝักแบน
มี 2 ซีก ปลายมีจะงอย มีผนังกั้น เมล็ดเป็นมันวาว ปลำยมีจะงอย (ภำพ: ภูจองนำยอย อุบลรำชธำนี - RM)
329
59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd 329 3/1/16 6:14 PM