Page 346 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 346

ม่วงบาลา
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                   สกุล Chayamaritia D. J. Middleton & Mich. Möller แยกจากสกุล Henckelia    ม่วงเบญจา
                   มีเพียง 2 ชนิด อีกชนิดคือ C. banksiae D. J. Middleton พบเฉพาะที่ลาว ใบรูปรี    Damrongia integra (Barnett) D. J. Middleton & Weber
                   กลีบเลี้ยงกว้างกว่า และขอบกลีบดอกจักซี่ฟัน ชื่อสกุลตั้งตามชื่อ ดร.ก่องกานดา
                   ชยามฤต นักพฤกษศาสตร์หอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช   วงศ์ Gesneriaceae
                   คำาระบุชนิดตั้งตามชื่อ ศ. ดร.เต็ม สมิตินันทน์      ชื่อพ้อง Chirita integra Barnett
                                                                       ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 30 ซม. มีขนหยาบตามเส้นแขนงใบด้านล่าง ก้านใบ ช่อดอก
                  เอกสารอ้างอิง                                      ก้านดอก กลีบเลี้ยง และผล ใบรูปไข่ ยำว 7.5-18.5 ซม. ปลำยแหลมหรือแหลมยำว
                   Burtt, B.L. (2001). Flora of Thailand: annotated checklist of Gesneriaceae. Thai
                      Forest Bulletin (Botany) 29: 81-109.           โคนกลม ขอบเกือบเรียบมีขนครุย แผ่นใบมีขนสั้นสีขำวทั้งสองด้ำน ก้ำนใบยำว
                   Middleton, D.J., K. Nishii, C. Puglisi, L.L. Forrest and M. Möller. (2015).   ได้ถึง 10.5 ซม. ก้ำนช่อดอกยำว 3.5-7 ซม. ดอกออกเป็นกระจุกที่ปลำยช่อ มี 1-7 ดอก
                      Chayamaritia (Gesneriaceae: Didymocarpoideae), a new genus from   ก้ำนดอกยำว 1-1.5 ซม. ใบประดับรูปแถบยำวประมำณ 3 มม. กลีบเลี้ยงยำว
                      southeast Asia. Plant Systematics and Evolution 301: 1947-1966. doi:   ประมำณ 1.5 ซม. แฉกลึกประมำณกึ่งหนึ่ง ปลำยกลีบมน ดอกรูปแตร ยำวได้ถึง
                      10.1007/s00606-015-1213-2                      4.5 ซม. หลอดกลีบช่วงโคนสีม่วง ด้านในกลีบล่างมีปื้นสีเหลือง 2 แนว กลีบสีขำว
                                                                     รูปกลม เบี้ยวเล็กน้อย ขนำดเท่ำ ๆ กัน หรือ 3 กลีบล่ำงยำวกว่ำเล็กน้อย ยำวได้ถึง
                                                                     9 มม. เกสรเพศผู้ติดเหนือโคนหลอดกลีบดอกประมำณ 1 ซม. รังไข่มีขน รูปแถบ ยำว
                                                                     6 มม. ก้ำนเกสรเพศเมียยำวประมำณ 1.5 ซม. โคนมีขนยำว ยอดเกสรพูล่างแบน
                                                                     รูปช้อน ยำวประมำณ 2 มม. ปลายจักตื้น ๆ 2 พู มีปุ่มเล็ก ๆ ผลยาวเลยกลีบเลี้ยง
                                                                     เล็กน้อย (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ เศวตฉัตร, สกุล)
                                                                       พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคใต้ที่เขำพนมเบญจำ จังหวัดกระบี่ ขึ้นตำมโขดหิน
                                                                     ในป่ำดิบชื้น ควำมสูง 700-1000 เมตร
                                                                      เอกสารอ้างอิง
                                                                       Barnett, E.C. (1961). Contributions to the Flora of Thailand, LV. Kew Bulletin
                                                                          15: 249-259.



                  ม่วงน�้าเงิน: มีขนสั้นนุ่มตำมล�ำต้น ใบ ก้ำนใบ ช่อดอก กลีบเลี้ยงและกลีบดอกด้ำนนอก ใบเรียงเวียนชิดโคนต้น ช่อดอก
                มี 1-2 ดอก กลีบเลี้ยงเรียงซ้อนเหลื่อม ขอบจักซี่ฟัน (ภำพ: เขำใหญ่ นครนำยก - TP)
                ม่วงบาลา
                Codonoboea crinita (Jack) C. L. Lim
                วงศ์ Gesneriaceae
                  ชื่อพ้อง Henckelia crinita (Jack) Spreng.
                                                                      ม่วงเบญจา: ใบรูปไข่ ก้ำนยำว ขอบมีขนครุย ดอกออกเป็นกระจุกที่ปลำยช่อ ดอกรูปแตร หลอดกลีบช่วงโคนสีม่วง
                   ไม้ล้มลุก สูง 20-50 ซม. มีขนสั้นหนานุ่มตามล�าต้น แผ่นใบ ช่อดอก และผล   กลีบสีขำว ด้ำนในกลีบล่ำงมีปื้นสีเหลือง 2 แนว (ภำพ: เขำพนมเบญจำ กระบี่ - RP)
                ส่วนมากมีสีม่วงอมแดงตามแผ่นใบด้านล่าง ก้านช่อดอก กลีบเลี้ยง และผล
                ใบรูปใบหอกกลับ ยำว 10-21 ซม. ขอบจักฟันเลื่อย 2 ชั้น ช่วงโคนจักลึก แผ่นใบ  ม่วงผักกาด, สกุล
                ด้านบนย่น เส้นแขนงใบข้างละ 18-23 เส้น ก้านใบสั้นหรือเกือบไร้ก้าน ช่อดอก  Henckelia Spreng.
                ออกตำมซอกใบ ก้ำนช่อยำว 2.5-5 ซม. ส่วนมำกมีดอกเดียว ก้ำนดอกยำวประมำณ
                1 ซม. กลีบเลี้ยงรูปสำมเหลี่ยม ยำว 2-5 มม. ด้ำนนอกมีขนประปรำย ดอกสีขาว ยำว   วงศ์ Gesneriaceae
                4.5-5 ซม. หลอดกลีบดอกเรียวแคบ มีขนประปรำยด้ำนนอก ปากด้านในมีตุ่ม  ไม้ล้มลุก บำงครั้งมีเนื้อไม้ที่โคนต้น ล�ำต้นสั้นหรือไม่มี ใบเรียงตรงข้ำม เรียงเวียน
                และขนสั้น มีปื้นสีเหลือง 2 แนว รังไข่มีขน ผลยำว 5-10 ซม. สีม่วงอมน�้ำตำล   หรือเรียงรอบข้อ ช่อดอกแบบช่อกระจุกออกตำมซอกใบ ใบประดับติดเป็นคู่หรือเป็น
                (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ แก้วน�้ำค้ำง, สกุล)            วงรอบ กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกจรดโคนหรือเชื่อมติดเป็นหลอด ดอกรูปแตร กลีบรูป
                   พบที่คำบสมุทรมลำยู สุมำตรำ บอร์เนียว และภำคใต้ตอนล่ำงของไทยที่  ปำกเปิด กลีบบน 2 กลีบ ขนำดเล็กกว่ำกลีบล่ำง 3 กลีบ เกสรเพศผู้ 2 อัน ติดใต้จุด
                ยะลำ นรำธิวำส ขึ้นตำมป่ำดิบชื้น ควำมสูง 50-300 เมตร  กึ่งกลำง อับเรณูเชื่อมติดกัน จำนฐำนดอกเป็นวงหรือจัก 5 พู รังไข่เรียวจรดก้ำน
                                                                     เกสรเพศเมีย ยอดเกสรเพศเมียคล้ายจัก 2 พู พูบนลดรูป (chiritoid stigma) พูล่าง
                  เอกสารอ้างอิง                                      บางครั้งแยก 2 แฉก ผลแห้งแตกเป็น 2 ซีกตำมยำว เมล็ดจ�ำนวนมำก ขนำดเล็ก
                   Ridley, H.N. (1923). Gesneriaceae. In Flora of the Malay Peninsula Vol. 2: 519-520.
                                                                       สกุล Henckelia รวมเอาสกุล Chirita หลายชนิด โดยเฉพาะ section Chirita
                                                                       และบางชนิดถูกจำาแนกใหม่ไปอยู่ภายใต้สกุล Codonoboea ปัจจุบันมีประมาณ
                                                                       55 ชนิด พบที่ศรีลังกา อินเดีย เนปาล ภูฏาน จีนตอนใต้ พม่า ลาว เวียดนาม ในไทย
                                                                       มีประมาณ 5 ชนิด ส่วนมากไม่พบตามเขาหินปูน ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์
                                                                       ชาวเยอรมัน Leo Victor Felix Henckel von Donnersmarck (1785-1861)

                                                                     ม่วงผักกาด
                                                                     Henckelia anachoreta (Hance) D. J. Middleton & Mich. Möller
                                                                      ชื่อพ้อง Chirita anachoreta Hance
                                                                       ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 35 ซม. ใบเรียงตรงข้ำมห่ำง ๆ รูปรี รูปขอบขนำน หรือแกม
                                                                     รูปไข่ ยำวได้ถึง 20 ซม. โคนกลมหรือเว้าตื้น เบี้ยว ขอบจักฟันเลื่อย แผ่นใบมีขน
                                                                     ประปรำยทั้งสองด้ำน ก้ำนใบยำวได้ถึง 7 ซม. ช่อดอกมี 1-7 ดอก ก้ำนช่อสั้นหรือ
                                                                     ยำวได้ถึง 8 ซม. ใบประดับรูปไข่หรือแกมรูปขอบขนำน ยำว 0.5-1.5 ซม. มีขนครุย
                  ม่วงบาลา: ใบเรียงเวียน ขอบจักฟันเลื่อย 2 ชั้น แผ่นใบด้ำนบนย่น ด้ำนล่ำงสีม่วงอมแดง ช่อดอกส่วนมำกมีดอกเดียว   ก้ำนดอกยำว 0.5-1.8 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยาวได้ถึง 1.4 ซม. กลีบรูปสำมเหลี่ยม
                ดอกรูปแตร หลอดกลีบเรียวแคบ มีปื้นสีเหลืองด้ำนใน (ภำพ: นรำธิวำส - MP)  ยำว 3-7.5 มม. มีขนประปรำยด้ำนนอก หลอดกลีบดอกสีขำว ยำว 2.5-4 ซม.

                326






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   326                                                                 3/1/16   6:14 PM
   341   342   343   344   345   346   347   348   349   350   351