Page 196 - ED 211
P. 196

อย่างรุนแรง  ดังจะเห็นได้จากกรณีประเทศไทยซึ่งเริ่มต้นการพัฒนาในช่วงทศวรรษ 1960 อันเป็น

                   ทศวรรษแรกของการพัฒนา  และเกิดปัญหาที่สะสมนานัปการจนน าไปสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งส าคัญใน

                   ปี พ.ศ.2540 ซึ่งท าให้ประเทศส่วนใหญ่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศญี่ปุ่นได้รับผลกระทบด้วย
                   และต่อมาประเทศไทยได้เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาประเทศในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8  ซึ่งแผนพัฒนาฯ

                   ฉบับที่ 10 ได้ชี้ให้เห็นว่าแนวทางการพัฒนาโดยให้ความส าคัญกับด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก  ได้ก่อให้เกิด

                   ปัญหาวิกฤติจนต้องเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาหันมาพัฒนาแบบองค์รวม  ซึ่งหมายถึงการพัฒนาที่บูรณา
                   การทุกด้านเข้าด้วยกันภายใต้กระบวนการท างานที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกัน  ดังข้อความตอนหนึ่งในปฐมบท:

                   ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับบริบทการพัฒนาประเทศ  ความตอนหนึ่งว่า


                               ที่มาของการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่ยั่งยืน  เกิดจากการใช้ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ

                               ตลอดเวลากว่าสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ที่ได้ให้ความส าคัญกับแนวคิดเศรษฐกิจเสรีนิยมหรือ

                               เศรษฐกิจทุนนิยมที่มุ่งพัฒนาเพื่อสร้างความมั่งคั่งและรายได้มาสู่ประเทศเป็นหลัก และใช้
                               การเติบโตของรายได้ต่อหัวเป็นเครื่องมือวัดผลส าเร็จของการพัฒนา ด้วยความคาดหวังว่า

                               การเพิ่มปริมาณสินค้าและบริการ การเพิ่มการจ้างงาน รวมทั้งประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการ

                               เติบโตทางเศรษฐกิจนั้น ในที่สุดแล้วย่อมจะสามารถกระจายไปสู่ประชาชนส่วนใหญ่ของ
                               ประเทศ  ท าให้ปัญหาความยากจนหมดไปได้ในที่สุด  แนวคิดและวิธีวัดการพัฒนาเศรษฐกิจ

                               ดังกล่าว จึงท าให้การเติบโตทางเศรษฐกิจได้รับการเอาใจใส่มากกว่าความสมดุลและความ

                               ยั่งยืน  ทั้งที่แท้จริงแล้ว “การเติบโตทางเศรษฐกิจ” จะต้องไม่ขัดแย้งกับเสถียรภาพ ความ
                               สมดุลและความยั่งยืนของการพัฒนาในระยะยาว และควรเป็นนโยบายที่ใช้แก้ปัญหา

                               เศรษฐกิจระยะสั้น โดยมีสมมติฐานว่าระบบเศรษฐกิจมีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีที่
                               สามารถใช้ประโยชน์บรรดาปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่  ในขณะที่ “การพัฒนา

                               เศรษฐกิจ” ที่จะท าให้เติบโตต่อเนื่องระยะยาวได้นั้น ต้องมีขีดความสามารถในการพึ่งตนเอง

                               ทางเทคโนโลยี  มีการพัฒนาคุณภาพคนในเชิงสติปัญญาความรอบรู้  มีความพอเพียงของ

                               สินค้าและบริการส าหรับการด ารงชีวิตของประชาชน และมีความเป็นธรรมในการแบ่งสรร
                               มูลค่าเพิ่มที่เกิดจากการผลิตในระหว่างปัจจัยการผลิตต่าง ๆ  รวมตลอดทั้งความเสมอภาค

                               ในทางเศรษฐกิจและสังคมของคนในชาติ  ความมั่นคงและความสงบสุขในสังคม และมีการ
                               อนุรักษ์ทรัพยากร  ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ให้เสื่อมสลาย ไม่คุ้มค่า และที่ส าคัญที่สุดคือ

                               มีเอกราชและอธิปไตยของชาติซึ่งไม่อาจที่จะแลกเปลี่ยนกับสิ่งอื่นใดได้  การพัฒนาที่

                               ครอบคลุมความหมายทั้งหมดนี้  จึงจะท าให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคงและ

                               ยั่งยืนในระยะยาว   (แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10: ซ)







                                                      เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 121
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201