Page 201 - ED 211
P. 201
2. จะต้องจัดให้มีเอกภาพในการบริหารการศึกษา โดยเน้นการให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วน
ร่วม และยึดหลักการบริหารที่มีทั้งประสิทธิภาพ และประสิทธิผลอันเหมาะสมกับลักษณะงานการศึกษา
3. จะต้องระดมเลือกสรรทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งจากรัฐบาล เอกชน และผู้รับ
การศึกษามาใช้ในการจัดการศึกษา และหาวิธีการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. จะต้องจัดให้มีความประสานสัมพันธ์ระหว่างการศึกษาในโรงเรียน นอกโรงเรียน และ
ลักษณะอื่น ๆ โดยจัดให้มีภาคปฏิบัติที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ในแต่ละระดับและประเภทการศึกษา
5. จะต้องจัดให้มีสาระและกระบวนการเรียนรู้มีความผสมผสานกันระหว่างความงอกงาม
ทางคุณธรรม จริยธรรม และปัญญากับความเจริญทางวัตถุ เพื่อการด ารงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลา
6. จะต้องเปลี่ยนแปลงบทบาทฐานะของครู และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเพื่อให้
รับกับสภาพการณ์ใหม่
7. แม้จะได้ท าการปฏิรูปการศึกษาให้บรรลุความมุ่งหมายตามแนวการจัดดังกล่าวนี้แล้ว ก็
ยังจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการศึกษาให้เหมาะสมแก่ความจ าเป็นแห่งกาลสมัยอีกต่อไปไม่หยุดยั้ง
เมื่อจัดท ารายงานเสร็จ คณะกรรมการวางพื้นฐานเพื่อปฏิรูปการศึกษาได้เสนอรายงานให้
คณะรัฐมนตรีพิจารณาและรับหลักการ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2517 รวมทั้งเสนอให้คณะรัฐมนตรี
1) อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด าเนินการในส่วนที่สามารถปฏิบัติได้เลย เช่น
การปรับปรุงหลักสูตรและวิธีการวัดผลทางการศึกษา และแก้ปัญหาความไม่เสมอภาคทางการศึกษา 2)
มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ น าหลักการและสาระของรายงานไป
ประกอบการพิจารณาประมวลไว้ในร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 3) ให้พิมพ์และ
แจกจ่ายรายงาน และ 4) แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษาเพื่อท าหน้าที่วางแผนการปฏิบัติงานตาม
แนวข้อเสนอของรายงาน (เพิ่งอ้าง. หน้า 9-10) แต่อย่างไรก็ตาม แม้คณะรัฐมนตรีในชุดที่มีหม่อม
ราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา เมื่อวันที่ 20
พฤษภาคม พ.ศ.2518 ซึ่งได้จัดท ารายงานว่าด้วยรายละเอียดแนวทางปฏิบัติ และแนวทางการ
เปลี่ยนแปลงบนหลักการตามข้อเสนอของรายงานของคณะกรรมการวางพื้นฐานเพื่อปฏิรูปการศึกษา โดย
ใช้ชื่อว่า การศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม เช่นเดียวกับชื่อรายงานของคณะกรรมการวางพื้นฐานเพื่อปฏิรูป
การศึกษา และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2521 ให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติรับไปบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 แต่การปฏิรูป
การศึกษาก็ไม่บรรลุผล ทั้งนี้เพราะคณะกรรมการปฏิรูปการศึกษาต้องพ้นสภาพไปพร้อมกับคณะรัฐมนตรี
(คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ,ส านักงาน. คณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา. 2521: ค าน า) ต่อมาในปี
พ.ศ.2521 คณะรัฐมนตรีมีมติให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปบรรจุใน
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 4 ซึ่งปีดังกล่าวเป็นปีที่สองของการประกาศใช้แผนพัฒนาฯ ฉบับดังกล่าวแล้ว
เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 126