Page 204 - ED 211
P. 204
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ: กระบวนทัศน์และแนวคิดการปฏิรูป
การศึกษา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และ
(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2553 สะท้อนถึงการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางการศึกษา เนื่องจากบทบัญญติสะท้อนถึง
ทัศนะในการมองความรู้และกระบวนการเรียนรู้ชุดใหม่ เพราะได้ขยายพรมแดนของการมองความรู้ให้
กว้างและหลากหลายยิ่งขึ้น ด้วยการนับความรู้และประสบการณ์จากจารีตอื่นที่มีวิถีในการสร้างความรู้ที่
แตกต่างจากวิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นความรู้เช่นเดียวกับความรู้ที่ถูกจัดระบบในรูปของศาสตร์หรือ
ความรู้สมัยใหม่ ดังนั้นความรู้จึงมีหลายแบบดังปรากฏในบทบัญญัติหลายมาตรา ดังนี้ มาตรา 15 (3)
นิยามให้การเรียนรู้ด้วยตนเองจากบุคคลและการเรียนรู้ที่เกิดจากประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
ตามอัธยาศัย มาตรา 23 (3) บัญญัติให้ภูมิปัญญาและการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาเป็นส่วนหนึ่งของความรู้ที่
การจัดการศึกษาทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย จะต้องบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละ
ระดับการศึกษา และมาตรา 57 ที่ก าหนดให้หน่วยงานทางการศึกษาระดมทรัพยากรบุคคลในชุมชนให้มี
ส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ซึ่งในบทบัญญัติใช้ค าว่า ประสบการณ์ ความรอบรู้ ความช านาญและภูมิ
ปัญญาท้องถิ่นของบุคคล นอกจากนั้นมาตรา 27 ยังก าหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีหน้าที่จัดท าสาระ
ของหลักสูตรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนชุดความคิดที่
เคยให้ความส าคัญกับหลักสูตรส่วนกลางมาเป็นการประสานความรู้สมัยใหม่กับภูมิปัญญาท้องถิ่น
ด้านเนื้อหาสาระของความรู้ก็มีขอบเขตที่กว้างครอบคลุมทั้งความรู้และทักษะชีวิต อาชีพ
และวิชาการ เพราะในมาตรา 23 ก าหนดให้ (1) ความรู้เกี่ยวกับตนเองและความสัมพันธ์ของตนเองกับ
สังคม (2) ความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและการจัดการ การบ ารุงรักษาและการใช้
ประโยชน์จากทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน (3) ความรู้เกี่ยวกับศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม
การกีฬา (4) ความรู้และทักษะด้านคณิตศาสตร์และภาษา และ (5) ความรู้และทักษะในการประกอบ
อาชีพและด ารงชีวิตอย่างมีความสุข เป็นความรู้ที่ต้องบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับ
การศึกษา
นอกจากจะขยายพรมแดนในการมองความรู้แล้ว บทบัญญัติยังสะท้อนถึงการมองความรู้ว่า
เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่สิ่งจริงแท้แน่นอน ดังจะเห็นได้จากนัยของบทบัญญัติมาตรา 24 ที่ว่า
การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด าเนินการดังต่อไปนี้
(1) จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดย
ค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล (2) ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การ
เผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา (3) จัดกิจกรรม
ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ท าได้ คิดเป็น ท าเป็น รักการ
เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 129