Page 207 - ED 211
P. 207

สถานศึกษาอาชีวศึกษาของแต่ละสถานศึกษา  เพื่อท าหน้าที่ก ากับและส่งเสริมสนับสนุนกิจการของ

                   สถานศึกษา  ประกอบด้วย  ผู้แทนผู้ปกครอง  ผู้แทนครู  ผู้แทนองค์กรชุมชน  ผู้แทนองค์กรปกครองส่วน

                   ท้องถิ่น  ผู้แทนศิษย์เก่าของสถานศึกษา  ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์หรือผู้แทนองค์กรศาสนาอื่นในพื้นที่และ

                   ผู้ทรงคุณวุฒิ”

                               ผลของการปฏิรูปการศึกษา

                               การปฏิรูปการศึกษาในช่วงทศวรรษแรก (2542-2551) ถูกประเมินจากหลายฝ่ายว่าล้มเหลว

                   (ประเวศ วะสี.  2557, สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และ ศุภณัฏฐ์ ศศิวุฒิวัฒน์.  2555, สมเกียรติ ตั้งกิจวา

                   นิชย์.  2558, บุญมี พันธุ์ไทย.  2554, สุดา ภักษา.  2554, ไพฑูรย์ สินลารัตน์.  2556)  เพราะแม้ว่าจะมี
                   การปฏิรูปโครงสร้าง  การบริหารและการจัดการศึกษาเพื่อกระจายอ านาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาและ

                   สร้างกลไกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อจัดการศึกษา  แต่การปฏิรูปดังกล่าวกลับไม่ส่งผลให้

                   เกิดการปฏิรูปการเรียนรู้ การศึกษาในระบบโรงเรียนยังคงเน้นการมอบความรู้  ยึดวิชาเป็นตัวตั้ง  สอนให้
                   เด็กท่องจ า ข้อสอบยังวัดความจ าและความเข้าใจมากกว่ามุ่งวัดทักษะด้านอื่นที่จ าเป็นส าหรับการด าเนิน

                   ชีวิต  การมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของสังคมยังอยู่ในขอบเขตที่จ ากัด  ค่านิยมของการเรียนสาย

                   สามัญยังแข็งแกร่ง  โรงเรียนกวดวิชาขยายตัวเติบโตมาก  (ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทย
                   พาณิชย์.  2555: ออนไลน์)  การเรียนรู้ตลอดชีวิตยังไม่เป็นวิถีชีวิตของผู้คนในสังคม เป็นต้น   ดังจะเห็นได้

                   จากผลการสอบ PISA  ซึ่งประเทศไทยเข้าร่วมการสอบตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา  มีคะแนนสอบต่ า

                   กว่าค่าเฉลี่ย OECD ในทุกรายวิชา (ดูตารางที่ 6)  ข้อเสนอและ Roadmap ปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาคน
                   อย่างยั่งยืน (พ.ศ.2558-2569) ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้ระบุถึงความจ าเป็นของการปฏิรูปการศึกษาว่า

                   “การศึกษากลายเป็นตัวฉุดรั้งขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ  ปัจจุบันไทยอยู่อันดับที่ 55 จาก
                   60 ในอันดับความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจ  โดยองค์ประกอบด้านคุณภาพก าลังคนเป็นตัวฉุดรั้งสูงสุด

                   (MID 2557)  ปัญหาการศึกษาไทยสั่งสมมากว่า 20 ปี ทั้งเรื่องการมีคุณภาพต่ า และความเหลื่อมล้ าสูง

                   เด็กไทยร้อยละ 60 ออกจากระบบการศึกษาด้วยวุฒิเพียง ม.6 ม.3 หรือต่ ากว่า และมีเด็กร้อยละ 10 ไม่

                   จบแม้แต่ ม.3 อันเป็นการศึกษาภาคบังคับ.....”  (ข่าวส านักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ
                   185/2557.  2557)  ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้แต่กระทรวงศึกษาธิการก็ยังประเมินว่า การด าเนินการปฏิรูป

                   การศึกษาของประเทศเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมาล้มเหลว เช่นเดียวกับการประเมินจากนักวิชาการและ
                   คนทั่วไปในสังคม
















                                                      เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 132
   202   203   204   205   206   207   208   209   210   211   212