Page 102 - OB
P. 102

86    บทที่ 4



                          มิตซูโกะ โฮริโมโตะ (2554) ได้ท าการศึกษาเรื่อง ความแตกต่างทางวัฒนธรรมใน
               การรับรู้อารมณ์เชิงลบทางสีหน้าระหว่างคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งท าการศึกษาโดยใช้การทดลอง

               โดยให้ผู้เข้าร่วมคนไทยและคนญี่ปุ่นดูรูปภาพที่แสดงสีหน้าทางอารมณ์เชิงลบระหว่างของคน

               ไทยกับคนญี่ปุ่น ผลการศึกษาพบว่า คนไทยมีแนวโน้มตีความใบหน้าเฉยของคนญี่ปุ่นผิดเป็น
               ใบหน้าความโกรธ ทั้งนี้ อาจเนื่องจากในชีวิตประจ าวันคนญี่ปุ่ นมักจะท าหน้าเฉยมากกว่า

               ใบหน้าอื่นๆ จึงมีโอกาสถูกคนไทยเข้าใจผิดว่าเป็นใบหน้าความโกรธ ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบในการ

               ติดต่อสื่อสารระหว่างคนไทยกับคนญี่ปุ่นได้ นอกจากนั้น ยังมีความแตกต่างระหว่างคนไทยกับ
               คนญี่ปุ่นเกี่ยวกับการแสดงออกถึงความรู้สึกเศร้าทางสีหน้า กล่าวคือ คนไทยมักจะไม่แสดง

               ความรู้สึกเศร้าทางสีหน้าอย่างชัดเจน ส่วนคนญี่ปุ่นมักจะแสดงความรู้สึกเศร้าได้อย่างชัดเจน

               มากกว่า ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมในแต่ละวัฒนธรรมนั่นคือ การรักษาหน้าของคน
               ไทย และการพึ่งพาแบบยอมผ่อนผันสไตล์อะมะเอะ (Ama-e) ของคนญี่ปุ่น

                          กีรติ บันดาลสิน, ฐิติลักษณ์ สมบุญ, สุรัสดา มีด้วง และพิทักษ์ ศิริวงศ์ (2559) ได้ท า

               การศึกษาเรื่อง การรับรู้ภาพลักษณ์และความต้องการด้านกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคม

               ของลูกค้าธนาคารออมสินในเขตพระนคร ซึ่งท าการศึกษาโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก ผล
               การศึกษาพบว่า ลูกค้ามีการรับรู้ภาพลักษณ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของธนาคารออมสิน

               ในเขตพระนครอยู่ในระดับดี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ มีพฤติกรรมการรับรู้ภาพลักษณ์ด้านความ

               รับผิดชอบต่อสังคม ผ่านสื่อโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ และลูกค้ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัด

               กิจกรรมความรับผิดชอบของธนาคารต่อสังคม โดยมองว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมและ
               ส่วนรวม และกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่ลูกค้าต้องการให้ธนาคารจัดขึ้น คือ

               กิจกรรมอาสาด้านการช่วยเหลือชุมชน การส่งเสริมการออม การให้ความรู้ การปลูกจิตส านึก

               ให้แก่เยาวชนและการบริจาคเงินหรือสิ่งของให้แก่ชุมชน
                          ณัฏฐ์พัฒน์ ปัตตายะโก (2553) ได้ศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ

               ลาออกของสมาชิกสหภาพแรงงานสุขสวัสดิ์กลการ ซึ่งท าการศึกษาโดยใช้แบบสอบถาม ผล

               การศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจลาออกของสมาชิกสหภาพแรงงาน ได้แก่
               อัตรารายได้ และภาระความรับผิดชอบต่อครอบครัว ส่วนปัจจัยที่ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ

               ลาออกจากสมาชิกสหภาพแรงงาน ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา ลักษณะงาน

               ต าแหน่งงาน ระยะเวลาการท างานในบริษัท ระยะเวลาการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน ที่พัก
               อาศัย และระยะทางในการเดินทางมาท างาน
   97   98   99   100   101   102   103   104   105   106   107