Page 170 - OB
P. 170
154 บทที่ 7
กรณีความผิดพลาดในการด าเนินงานขององค์การที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์การ
...ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่
เกี่ยวข้องที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือเป็นอย่างดีในการบรรเทาเหตุ ทั้งนี้ ทาง
บริษัทฯ พร้อมที่จะดูแลรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมเพิ่ม
มาตรการตรวจสอบความเรียบร้อย ตลอดจนมีการติดตามแก้ไขและป้ องกัน
ไม่ให้เกิดอุบัติภัยเช่นนี้อีก ตามนโยบายด้านความปลอดภัยที่ยึดถือปฏิบัติมา
อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
(ปตท., 2557)
จากตัวอย่างข่าวสารที่สื่อสารไปยังผู้เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบในกรณี
ต่างๆ นั้น จะเห็นได้ว่า การจัดการการติดต่อสื่อสารในภาวะวิกฤตที่ดี นอกจากจะช่วยบรรเทา
หรือแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส และสร้างภาพลักษณ์
ที่ดีขององค์การได้อีกด้วย ทั้งนี้ สิ่งส าคัญที่ต้องค านึงส าหรับการติดต่อสื่อสารในขั้นตอนนี้ก็คือ
การเลือกผู้ส่งสาร และการเลือกช่องทางในการติดต่อสื่อสาร
โดยส าหรับผู้ส่งสารนั้นควรมีความน่าเชื่อถือและมีวิธีการสื่อสารที่ดี ซึ่งการ
ติดต่อสื่อสารในภาวะวิกฤตนั้นจะต้องมีการจ ากัดจ านวนผู้ส่งสาร โดยปกติจะแต่งตั้งเพียงคน
เดียวหรือกลุ่มเดียว เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและส่งข่าวสารไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนการ
เลือกช่องทางในการติดต่อสื่อสารนั้น ควรเป็นสื่อที่รวดเร็วและสามารถกระจายข่าวสารได้
ครอบคลุมผู้รับสารที่เป็นกลุ่มเป้ าหมาย ซึ่งหากเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารภายในองค์การ
สามารถใช้การประกาศเสียงตามสาย การส่งข้อความผ่านระบบ SMS การประชุมพนักงาน
ร่วมกัน หรือการใช้สัญญาณเสียงไซเรนสีต่างๆ ตามที่ได้มีการก าหนดไว้ หรือกรณีภายนอก
องค์การสามารถใช้การจัดแถลงข่าวผ่านสื่อมวลชน การสัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ หรือการ
ประกาศลงเว็บไซต์ของหน่วยงาน
4. เรียนรู้จากข้อผิดพลาดเพื่อสร้างความพร้อมครั้งต่อไป
ภายหลังที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว องค์การจ าเป็นต้องมีการถอดบทเรียน
จากวิกฤตดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพื่อร่วมกันวางแผนการบริหารองค์การในภาวะวิกฤต ตลอดจนการ
จัดการการติดต่อสื่อสารในภาวะวิกฤต ส าหรับเป็นแนวทางการป้ องกันและแก้ไขสถานการณ์
ในอนาคตได้