Page 50 - OB
P. 50
34 บทที่ 2
หรือควำมเคยชิน ทัศนคติจึงมีลักษณะเป็นระดับควำมรู้สึกทำงจิตวิทยำที่เรำมีต่อสิ่งต่ำงๆ และ
จะเห็นได้จำกปฏิกิริยำโต้ตอบว่ำชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งเป็นระดับทำงจิตวิทยำของแต่ละบุคคลที่
มีต่อสิ่งต่ำงๆ
จำกกำรให้ควำมหมำยดังกล่ำว สำมำรถสรุปได้ว่ำ ทัศนคติ หมำยถึง แนวโน้มกำร
ประเมินหรือตัดสินที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทั้งในทำงบวกหรือทำงลบ เช่น ชอบหรือไม่ชอบ
พอใจหรือไม่พอใจ ซึ่งสะท้อนควำมรู้สึกของบุคคลที่มีต่อสิ่งๆ นั้น ทั้งต่อบุคคล สิ่งของ กลุ่ม
คนหรือสังคม สถำนกำรณ์ต่ำงๆ เป็นต้น ตัวอย่ำงเช่น เมื่อเรำพูดว่ำ “ผมชอบงำนของผมที่ท ำ
อยู่” เป็นกำรแสดงทัศนคติของผมที่มีต่องำน เป็นต้น ทั้งนี้ ทัศนคติจะมีควำมคล้ำยคลึงกับ
ค่ำนิยม ซึ่งบุคคลจะสำมำรถรับกำรถ่ำยทอดและเรียนรู้จำกสิ่งแวดล้อมในสังคม แต่ทัศนคติจะ
มีรำกฐำนและควำมมั่นคงฝังแน่นอยู่ในตัวบุคคลน้อยกว่ำ ท ำให้สำมำรถเปลี่ยนแปลงได้ง่ำย
กว่ำค่ำนิยม โดยเฉพำะเมื่อมีข้อมูลใหม่หรือระยะเวลำเปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้น อำจกล่ำวได้ว่ำ “ทัศนคติเปรียบเสมือนแว่นตำ” ที่เมื่อเรำสวมใส่แว่นตำที่มี
เลนส์สีอะไร เรำก็จะมองโลกทั้งใบหรือสิ่งรอบตัวเรำเป็นสีนั้น ตัวอย่ำงเช่น สถำนกำรณ์ที่เรำ
ต้องนั่งรถโดยสำรเพื่อเดินทำงไปที่ไหนสักแห่ง ขณะนั่งอยู่ในรถ เรำมีโอกำสที่จะเลือกสวม
แว่นตำที่มีเลนส์ของกำรรอเวลำ ซึ่งเมื่อมองออกไปนอกรถก็มีแต่ควำมน่ำเบื่อและคิดในใจเสมอ
ว่ำเมื่อไหร่จะถึงที่หมำยปลำยทำงสักที หรือเรำจะแต่งเติมสีสันให้ชีวิตของเรำด้วยกำรเลือกสวม
แว่นตำที่มีเลนส์ของควำมร่ำเริง ซึ่งเมื่อมองออกไปนอกรถก็จะรู้สึกว่ำสนุกสนำน โดยมองว่ำใน
ระหว่ำงกำรเดินทำงยังมีธรรมชำติหรือสิ่งรอบตัวแปลกใหม่ให้เรำได้มองและเรียนรู้ไปกับสิ่ง
นั้นๆ ได้ จำกที่กล่ำวมำจะเห็นได้ว่ำ แม้คนเรำจะอยู่ในสถำนกำรณ์เดียวกัน แต่หำกมีทัศนคติ
หรือควำมรู้สึกต่อสิ่งนั้นที่ต่ำงกัน ก็จะส่งต่อพฤติกรรมหรือกำรตอบสนองกลับต่อสิ่งนั้นที่
แตกต่ำงกันตำมมำด้วย ดังแสดงรำยละเอียดประกอบในภำพที่ 2.3