Page 152 - Annual Report 2552
P. 152
PDMO PUBLIC DEBT
MANAGEMENT
OFFICE
เนื่องจากนักลงทุนของพันธบัตรออมทรัพย์เป็นนักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นคนละกลุ่มกับนักลงทุนของตลาด
พันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์และนักลงทุนสถาบัน ทั้งนี้เพื่อลดแรงกดดันต่ออุปทานรวมของพันธบัตร
รัฐบาล (Loan Bond) อย่างกะทันหันในคราวเดียว
พร้อมกันนั้น สบน. ยังได้มีการแจกแจงประมาณการความต้องการกู้เงินรายปีไปจนถึงปีงบประมาณ
พ.ศ. 2555 ที่ประกอบไปด้วยการกู้เงินเดิมที่มาจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณและปรับโครงสร้าง
หนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำาหนดไถ่ถอนในแต่ละปี รวมถึงการกู้เงินเพิ่มเติมภายใต้ พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. เพื่อให้
ตลาดเห็นถึงอุปทานอย่างครบถ้วน โดยรูปภาพที่ 1 แสดงให้เห็นถึงการกู้เงินในระยะ 3 ปีข้างหน้า ที่รวมวงเงินกู้
เพื่อโครงการไทยเข้มแข็ง 800,000 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการดำาเนินการดังกล่าวก็สามารถสร้าง
ความเข้าใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ร่วมตลาด เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลใน
ตลาดรองตราสารหนี้ที่ทยอยปรับตัวลดลงตามลำาดับ อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อมาของตลาดในขณะนั้นคือ
รัฐบาลจะใช้เครื่องมือใดในการกู้เงินที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นกว่าปีละ 700,000 - 900,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี
ข้างหน้า (2552 - 2555) ทั้งที่ในปี 2551 มีการกู้เงินเพียง 270,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งโจทย์นี้เป็นบททดสอบ
สำาคัญของกลยุทธ์ในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศภายใต้แนวทางใหม่ เพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาดรอง
7
ซึ่ง สบน. เชื่อมั่นว่าการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดรองจะเป็นปัจจัยสำาคัญในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
เป็นแหล่งระดมทุนที่ยั่งยืน กล่าวคือ สามารถกู้เงินได้ครบจำานวนภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม
7 กลยุทธ์หลัก 3 ประการที่ สบน. เริ่มดำาเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เพื่อสร้างพันธบัตร Benchmark อย่างเป็นระบบ
คือ (1) การเพิ่มขนาดของพันธบัตร Benchmark ให้สูงถึง 60,000 - 100,000 ล้านบาท ต่อรุ่นอายุ (2) การเพิ่มวงเงินการประมูลเป็น
10,000 - 15,000 ล้านบาท ต่อครั้ง และ (3) การลดความถี่จากการประมูลทุกสัปดาห์เป็นเดือนเว้นเดือน (ที่มา : บันทึกข้อความที่
กค 0908/สพต 53 ลงวันที่ 16 ส.ค. 2550)
รายงานประจำาปี 2552 ANNUAL REPORT 2009 151