Page 48 - Education 4.0 : ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์
P. 48

40    ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์
          กับแนวคิดและการขับเคลื่อนการศึกษา 4.0


          ความรูคนอื่น แลวเราก็มาสอนตอกันเปนความรูคนอื่น ซึ่งความรูของฝรั่งถูกนํามา
          เผยแพรตั้งแตสมัยรัชกาลที่ 5 การศึกษาเหลานี้สอนใหคนถนัดดานการบริโภคดังที่
          กลาวมา สอนใหถนัดในการซื้อกินซื้อใช ซึ่งถายังเปนแบบนี้ การศึกษาเราคงจะแยและ
          ประเทศเราเราคงจะแย ดังนั้นเราตองปรับเปลี่ยนการศึกษาไทยใหเปนการศึกษาที่ไมใชสราง
          consumer แตสราง producer ใหคิดและประดิษฐอะไรขึ้นมาใหได เราจึงเรียก วา
          producer Education และสิ่งนี้เราจึงเรียกวายุค 4.0  เพราะยุคที่ 4.0 เปนยุคผลิตภาพ

          คือ เปนการศึกษาที่สรางผลผลิตขึ้นมา
                                              หากศึกษาที่มาก็จะพบวาการศึกษา 4.0
                                      มาจาก 3 แนวทางใหญๆ แตทั้ง 3 แนวทางมีจุด
                                      รวมเดียวกันคือ เปนการศึกษาที่ตองสอนใหเด็ก
                                      มีการผลิต มี product และเปน product ที่เปน
                                      นวัตกรรม การศึกษา 4.0 ที่พัฒนาจะมีความ
                                      เกี่ยวกับกระบวนการที่ทําใหไดมาซึ่งผลผลิต
                                      แตบางคนก็นํา 4.0 ไปใชสารพัด เชนมหาวิทยาลัย
                                      หนึ่งบอกวาจะเปนมหาวิทยาลัย 4.0 ถามวา
                                      ทําอะไร คือ ปรับปรุงสถานที่ใหสวยงาม ปรับปรุง
          หองนํ้าใหใหไมมีกลิ่น อันที่สองเราพูดวาเดี๋ยวนี้มีวัด 4.0 วัด 4.0 คือ วัดที่สะอาด
          หองนํ้าใหใหไมมีกลิ่น อันที่สองเราพูดวาเดี๋ยวนี้มีวัด 4.0 วัด 4.0 คือ วัดที่สะอาด
          ซึ่งไมเกี่ยวกันเลย  เหลานั้นเปนการบริหารจัดการธรรมดา  แตถากลาวถึง  4.0
          ในกระบวนการที่กลาวกันมา คือ กระบวนการที่ตองมี Product และ Product นั้น
          จะตองเปน product ที่ใชประโยชนไดและมี innovation ในตัว
                 เพราะฉะนั้นหากจะคิดถึงการศึกษา
          การศึกษาบานเราที่เนน คือ 1) เริ่มจากการสอน
          ใหรูจัก ไมรูก็สอนใหรูแคนี้ก็ภูมิใจแลว 2) สอน
          ใหรูแลว ยังไมพอแตตองสอนใหเขาใจถึงจะเรียก
          วาครูดี อันนี้บางคนก็พอใจแลว อันที่ 3 บางคน
          สอนใหเขาใจไมพอ ตองสอนใหรูจักวิเคราะห
          ตีความได ซึ่งก็ยังดีขึ้น อันที่ 4 นอกจากวิเคราะห

          ตีความได ตองสอนใหทํางานเปน สอนใหทํางาน
          ตามเขาได เชน ถาอยากใหเด็กอยูในธุรกิจที่ดี
          ก็เอาไปฝกงานอยูแบงค อยูบริษัท ที่เรียกทวิภาคี
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53