Page 41 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25

ส่วนที่ ๓ หน้า ๒๙

จากนั้น ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ดังนี้

ื้
๑. กระทรวงศึกษาธิการโดยส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนฐาน และส านักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ควรมีการควบคุมมาตรการในการคัดเลือกและรับครูในโรงเรียนต่าง ๆ

ว่าต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูอย่างเคร่งครัด และให้มีการก าหนดหลักเกณฑ์และกระบวนการรับครูพี่เลี้ยง
ในระดับปฐมวัย และครูชาวต่างชาติที่มีมาตรฐานอย่างชัดเจน โดยต้องค านึงถึงสภาพจิตใจ บุคลิกภาพ
ในการควบคุมอารมณ์ และทัศนคติของบุคคลนั้นเป็นส าคัญ เนื่องจากสภาพจิตใจและทัศนคติของครู

เป็นปัจจัยส าคัญที่มีผลต่อเด็กโดยตรง
๒. กระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียนต่าง ๆ ควรมีกระบวนการติดตามและตรวจสอบ

ี่
การคัดเลือกครูและครูพเลี้ยงของแต่ละโรงเรียนอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม รวมถึงต้องมีการประเมิน
ี่
สภาพจิตของครู และครูพเลี้ยง โดยเฉพาะในชั้นเรียนของเด็กปฐมวัยทั้งก่อนเปิดภาคเรียนและระหว่าง
เปิดภาคเรียน

๓. โรงเรียนทุกแห่งควรจัดให้มีกล้องวงจรปิดภายในโรงเรียนที่ไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ของเด็กและผู้ปกครอง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะต่าง ๆ

๔. คณะกรรมการชุดต่าง ๆ และหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลด้านเด็กในสถานศึกษาทั้งในระบบ
ื่
ภาครัฐและเอกชน ควรมีการบูรณาการท างานร่วมกัน เพอหาแนวทางป้องกันการเกิดปัญหาความรุนแรง
ต่อเด็กในสถานศึกษาในอนาคตที่เป็นรูปธรรม

๕. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการก าหนดแนวทางการด าเนินงาน มาตรการในการดูแล
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่ชัดเจน หากว่ามีเหตุการณ์ความรุนแรงในโรงเรียนในลักษณะเช่นนี้อีก

ุ
๖. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พทธศักราช ๒๕๖๐ ส าหรับเด็กอายุ ๓ – ๖ ปี ของกระทรวง
ศึกษาธิการ ที่ได้ก าหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พงประสงค์จ านวน ๑๒ ประการ อาจเป็นต้นเหตุที่น าไปสู่
ึ
ความรุนแรงต่อเด็กปฐมวัยในโรงเรียนได้ เช่น การก าหนดพฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วยมาตรฐาน
ั
ที่เด็กมีสุขภาพจิตดีและมีความสุข ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว โดยหาก
ปรากฏว่ามีเด็กที่ไม่ได้มีความชื่นชมหรือสนในศิลปะ ดนตรี หรือเด็กที่มีความซุกซนมากกว่าเด็กคนอื่น

ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าว อาจจะท าให้ครูน ามาเป็นเหตุผลที่มาท าร้ายเด็กได้
ี่
๗. กระทรวงศึกษาธิการและโรงเรียนต่าง ๆ ควรมีการจัดอบรมครูและครูพเลี้ยงทั้งก่อน
และระหว่างที่ท าหน้าที่เป็นครูในโรงเรียน เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการท าหน้าที่ครู
ที่ถือเป็นอาชีพหนึ่งที่มีความส าคัญ