Page 46 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 46
หน้า ๓๔ ส่วนที่ ๓
ที่ชุมนุมบริเวณหน้าร้านอาหารแมคโดนัลด์ สาขาถนนราชด าเนินกลาง ในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๓ เป็นการ
กระท าความผิดซึ่งหน้า จึงน าไปสู่การจับกุมโดยไม่มีหมายจับและไม่ทราบว่า หนึ่งในผู้ถูกจับกุมเป็นเยาวชน
เนื่องจากลักษณะรูปร่างภายนอกคล้ายผู้ใหญ่ ทั้งนี้ เมื่อทราบอายุที่แท้จริงว่า เป็นเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องได้ด าเนินการอย่างถูกต้องตามกระบวนการสอบปากค าเด็กและเยาวชน
โดยในขณะนี้มีการด าเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมที่ผู้ต้องหาเป็นเด็กและเยาวชน จ านวน ๙ คดี
ซึ่งเยาวชนบางคนถูกด าเนินคดีซ้ า เนื่องจากกระท าความผิดซ้ า ข้อหาส่วนใหญ่ คือ การชุมนุมโดยไม่แจ้ง
ขออนุญาต การปลุกปั่น ยุยง ตามมาตรา ๑๑๖ และการกระท าความผิดตามมาตรา ๑๑๒
ทั้งนี้ ในกรณีที่คณะกรรมาธิการสอบถามเกี่ยวกับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ต ารวจ ผู้แทนส านักงานต ารวจแห่งชาติชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ต ารวจจ าเป็นต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายก าหนด
และการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ ดังนั้น การชุมนุมของเด็กและเยาวชน
ซึ่งในบางครั้งมีการใช้ถ้อยค าที่รุนแรงหรือไม่เหมาะสม ซึ่งหากไม่ด าเนินการอาจจะถูกมองว่า เป็นการละเว้น
การปฏิบัติหน้าที่ได้
ิ
นอกจากนี้ ผู้แทนกระทรวงยุติธรรมได้ให้ข้อมูลว่ากระทรวงยุติธรรมและกรมพนิจและคุ้มครอง
เด็กและเยาวชนได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์การด าเนินคดีต่อเด็กและเยาวชน ตั้งแต่ช่วง
ิ
เริ่มมีการชุมนุม ด าเนินการตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพจารณาคดีเยาวชน
และครอบครัว พ.ศ. 2553 ซึ่งก าหนดหลักการคุ้มครองสิทธิของเด็ก เยาวชน สตรี และบุคคลในครอบครัว
พร้อมทั้งอนุสัญญาสิทธิเด็ก และอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
ิ
โดยเมื่อมีเด็กและเยาวชนเข้ามาสู่กระบวนการด าเนินงานของกรมพนิจและคุ้มครองเด็ก
และเยาวชน พนักงานคุมประพฤติซึ่งผ่านการอบรมทักษะการคุ้มครองดูแลเด็ก จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ
ที่มาของพฤติกรรมและสภาพแวดล้อม ด้วยวิธีการสัมภาษณ์สอบถาม และการใช้แบบประเมินความเสี่ยง
ความจ าเป็น พร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์ในการสอบถามและสิทธิของเด็ก รวมทั้งกระบวนการที่เกี่ยวกับเด็ก
และเยาวชนในชั้นสถานพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งเด็กและเยาวชนมีสิทธิที่จะตอบหรือไม่ตอบ
ิ
บางค าถามที่รู้สึกไม่สะดวกให้ค าตอบ
ในขณะนี้ มีเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวกับการชุมนุม ในสถานพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
ิ
ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี จ านวน ๖ คน โดยมีที่มาจากการกระท าความผิด ๙ คดี
ส่วนมากเป็นการกระท าความผิดตามพระราชก าหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน และการกระท าความผิดตาม
มาตรา ๑๑๒
ส าหรับประเด็นค าถามเกี่ยวกับเพศนั้น เป็นส่วนหนึ่งในแบบประเมินความเสี่ยงความจ าเป็น
ซึ่งมีองค์ประกอบจ านวน ๘ ด้าน และมีวัตถุประสงค์เพอรับทราบและรวบรวมข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ
ื่
กาย จิต และสังคมของเด็กและเยาวชน เช่น ภูมิหลังการศึกษา ประวัติครอบครัว การเลี้ยงดูของผู้ปกครอง
การใช้ยาเสพติด เป็นต้น การทราบข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินและการลดความเสี่ยงในการ
กระท าความผิดซ้ าของเด็ก ซึ่งเป้าหมายของกระบวนการยุติธรรมส าหรับเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ วิธีการ
สัมภาษณ์เด็กและเยาวชนแต่ละราย โดยใช้ค าถามจากแบบประเมิน อาจมีความแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับ
ดุลพินิจและทักษะในการพิจารณาใช้ข้อค าถาม และความลื่นไหลในการสอบถามของพนักงานคุมประพฤติ