Page 42 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 42
หน้า ๓๐ ส่วนที่ ๓
พิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีเด็กถูกท าร้ายร่างกายในสถานศึกษา
คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลาย
ิ
ทางเพศ ได้พจารณาเรื่องที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม ได้รับเรื่องร้องเรียน
จากผู้ปกครองรายหนึ่งซึ่งระบุว่าบุตรชายถูกท าร้ายในโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร รวม ๒ ครั้ง โดยครั้งแรก
ช่วงปลายเดือนมิถุนายน และครั้งที่สองปลายเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๑ โดยได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจ าวัน
ณ สถานีต ารวจนครบาลดินแดง และได้เข้ารับการตรวจร่างกาย ณ โรงพยาบาลนครธน จนกระทั่งมีการระบุ
ตัวบุคคลผู้กระท าความผิด และได้มีการน าเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยได้มีค าพิพากษาของศาล
เยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๓ ลงโทษโดยการว่ากล่าวตักเตือน เนื่องจากเป็นลหุโทษ
และผู้กระท าความผิดยังเป็นเยาวชน ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวข้างต้น ผู้ร้องเรียนเห็นว่าไม่มีความชัดเจนใน ๓
ประเด็น คือ
๑. ผู้บริหารโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครยังไม่มีการยอมรับอย่างเป็นทางการว่ามีเหตุการณ์
ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และผู้บริหารยังมีส่วนเป็นพยานให้กับผู้กระท าความผิด
๒. ผู้บริหารของโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครยังไม่มีการขอโทษหรือยอมรับผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
๓. โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครมิได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือมีการตั้งคณะกรรมการ
ื่
เพอสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด รวมถึงไม่มีแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จึงเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ
คณะกรรมาธิการเห็นว่าเพื่อให้ได้ข้อมูลและความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว จึงเชิญผู้บริหาร
โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมเพอให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมาธิการ โดยสรุป
ื่
สาระส าคัญ ดังนี้
ผู้แทนโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครได้ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครเป็นโรงเรียนประจ า นักเรียนอาจมีเรื่องกระทบกระทั่ง
กันบ้าง และเกิดเหตุเป็นครั้งแรกนับจากมีการก่อตั้งโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้ปกครองเป็นผู้น าเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลตัดสินเป็นลหุโทษโดยการว่ากล่าวตักเตือน
เนื่องจากผู้กระท าความผิดยังเป็นเยาวชน และในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ผู้ร้องเรียนได้น าเรื่อง
ดังกล่าวเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลตามที่ต่าง ๆ ซึ่งส านักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ได้มีการ
ไปชี้แจงหลายครั้ง และผู้อ านวยการโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครในขณะนั้นได้แสดงความรับผิดชอบ
กับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยการจัดหาที่เรียนใหม่ให้กับเด็กและได้มีการกล่าวขอโทษ อีกทั้ง ได้มีการลงบันทึก
ประจ าวันไม่ติดใจเอาความ ณ สถานีต ารวจดินแดง ซึ่งหลังจากนั้น ผู้ร้องเรียนยังได้มีการไปร้องเรียนต่อ
ที่กรุงเทพมหานคร โดยทางกรุงเทพมหานครได้มอบเงินจ านวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท ในการเยียวยาและต่อยอด
ในเรื่องกีฬา ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้บริหารโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด
ส่วนในเรื่องมาตรการแนวทางการป้องกันเพอไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น โรงเรียนกีฬา
ื่
กรุงเทพมหานคร มีระเบียบปฏิบัติของศูนย์ฝึกกีฬาเยาวชน (โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร) ถือปฏิบัติ
ในการก ากับ ดูแลนักเรียนในสังกัดโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร โดยระเบียบปฏิบัติ หมวดที่ ๑ – ๓
เป็นกฎระเบียบในการอยู่ประจ า และหมวดที่ ๔ เป็นเรื่องการลงโทษในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการทะเลาะวิวาท
ซึ่งเริ่มจากการหักคะแนนความประพฤติไปจนถึงการไล่ออก แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการไล่ออกเกิดขึ้นนับจากมีการ
เปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร