Page 94 - สรป 4Y กมธ กิจการเด็กฯ ชุด 25
P. 94

หน้า ๘๒                                                                              ส่วนที่ ๓



                                                      ั
                           อย่างไรก็ตาม แม้จากการรับฟงความคิดเห็น ได้มีความเห็นที่จะให้การค้าประเวณีสามารถ
               กระท าได้ภายใต้การควบคุมและมีเงื่อนไขที่ชัดเจน โดยขอให้ภาครัฐมีมาตรการคู่ขนานไปด้วยก็ตาม แต่ยังมี
               ข้อห่วงกังวลจากสังคมในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

                           ๑. การควบคุมสื่อออนไลน์
                           ๒. การโฆษณาประชาสัมพันธ์การขายบริการ
                           ๓. การปรับทัศนคติของคนในสังคมที่ไม่ตีตราผู้ค้าประเวณี

                           ๔. สิทธิประโยชน์ที่ผู้ค้าประเวณีได้รับจากการลงทะเบียน
                           ๕. การปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าสู่กระบวนการค้าประเวณีมากขึ้น

                                   ิ
                           ๖. การพจารณาทบทวนพระราชบัญญัติสถานบริการเกี่ยวกับการระบุตัวตน ซึ่งส่งผลท าให้
               ผู้ค้าประเวณีต้องมีประวัติ
                           กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

                                                   ื่
                           รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพอเศรษฐกิจและสังคม ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ ว่า การใช้สื่อ
               โฆษณา ชักชวน หรือแนะน าเพื่อการค้าประเวณีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งการกระท าในลักษณะอาจเข้าข่าย

                                                                               ิ
               ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๐
                                                      ิ
               วรรค ๓ ซึ่งว่าด้วยการเผยแพร่ข้อมูล คอมพวเตอร์ที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี
               ของประชาชน และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. ๒๕๓๙

               มาตรา ๗ ซึ่งว่าด้วยการโฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวนหรือแนะน าอันเป็นการเรียกร้องหรือการติดต่อ
               เพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น

                           ในกรณีที่มีการตรวจพบการกระท าความผิด ตามมาตรา ๒๐ พระราชบัญญัติว่าด้วย
               การกระท าความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถ

               มีหนังสือไปยังศาลเพื่อขอระงับหรือปิดกั้น URL ที่กระท าความผิด อย่างไรก็ตาม กระบวนการระงับดังกล่าว
               ใช้เวลาด าเนินการค่อนข้างนาน แต่การเผยแพร่ข้อมูลอนาจารที่ไม่เหมาะสมนั้นรวดเร็วกว่ามาก และเมื่อ
               URL ที่ท าความผิดถูกระงับการใช้งาน ก็ผู้ใช้งานก็สามารถเปิดใช้งาน URL ใหม่ได้ในระยะเวลาไม่นาน

               ดังนั้น การจับกุมผู้กระท าความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลทางคอมพวเตอร์จึงถือว่าเป็นภารกิจ
                                                                                    ิ
               ที่ค่อนข้างยาก นอกจากนี้ การควบคุมเนื้อหาที่เผยแพร่ออนไลน์ก็กระท าได้ยากเช่นกัน เนื่องจากประเทศ

               ไทยมิได้มีการใช้ทางผ่านอินเตอร์เน็ตช่องทางเดียว (Single Gateway) ซึ่งเป็นระบบที่ท าให้รัฐสามารถ
               คัดกรองตรวจสอบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม หรือป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมได้ ซึ่งวิธีการ
               แก้ปัญหาที่ยั่งยืน คือ การสร้างความรู้ความเข้าใจ และการตระหนักรู้ให้ประชาชนใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่าง

               เหมาะสม และมีวิจารณญาณในการรับชมรับทราบเนื้อหาที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
               เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน

                           ส าหรับแนวทางปฏิบัติในต่างประเทศ บุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วสามารถกระท าได้โดยเสรี
               มิได้ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาทางเพศ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ช่องทางของสังคมออนไลน์
               เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) ยูทิวบ์ (Youtube) หรือ ทวิตเตอร์ (Twitter) มีมาตรฐานในการตรวจสอบข้อมูล

               ที่ไม่เหมาะสมที่เผยแพร่ในระบบ (Standard Committee) อาทิ เนื้อหาที่เกี่ยวกับการกระท าความรุนแรง
               ต่อเด็กและสตรี และจะระงับการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งสามารถช่วยคัดกรองการเผยแพร่ข้อมูล

               ที่ไม่เหมาะสมได้ในระดับหนึ่ง ส าหรับภาพลามกอนาจาร ในต่างประเทศ ผู้ที่บรรลุนิติภาวะสามารถเผยแพร่
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99