Page 20 - Psychology
P. 20
หน้ า | 17
ก. อิด (id)เป็นพลังงานทางจิตที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใต้สํานึกเป็นส่วนใหญ่ พลังงานทางจิตส่วนนี้
จะหมายถึง ความอยาก ความต้องการ กิเลส และตัณหาทั้งหลาย ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะพยายามหาทาง
ตอบสนองโดยไม่สนใจในโลกแห่งความเป็นจริงว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ฟรอยด์กล่าวว่าอิดของบุคคลจะเกิดจาก
สัญชาตญาณ 2 ประเภท ได้แก่
สัญชาติญาณแห่งการดํารงชีวิตอยู่ (life instinct) ซึ่งเป็นสัญชาตญาณที่จะกระตุ้นให้
บุคคลเกิดการแสวงหาสิ่งที่ทําให้เกิดความสุข ความสบาย และความพึงพอใจแก่ตน ในบรรดาสัญชาตญาณ
แห่งการดํารงชีวิตอยู่นั้น ฟรอยด์จะให้ความสําคัญกับความต้องการทางเพศ (sexual) มากที่สุด แต่ความ
ต้องการทางเพศในทัศนะของฟรอยด์นั้นไม่ได้หมายถึงความต้องการความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น
แต่จะครอบคลุมถึงความต้องการความสุข ความพึงพอใจ หรือความสะดวกสบายทุกอย่าง เช่น ต้องการนั่งรถ
ปรับอากาศเพราะเย็นสบาย ต้องการความสุขจากการับประทานอาหารระดับเชลล์ชวนชิม หรือมีความสุขกับ
การเรียนวิชาที่เราชอบ เป็นต้น
สัญชาตญาณแห่งความตาย (death instinct) เป็นสัญชาตญาณที่กระตุ้นให้บุคคลเกิดการ
แข่งขันเอาชนะ ต่อสู้ ท้าทาย ซึ่งฟรอยด์ได้ให้ความสําคัญกับความก้าวร้าว (aggression) มากที่สุด ตัวอย่าง
ของความก้าวร้าว ได้แก่ ความต้องการที่จะได้รับการคัดเลือกขึ้นเป็นหัวหน้างาน จึงพยายามขยันทํางานเพื่อให้
ผู้บังคับบัญชาเลือกตน แม้กระทั่งการทะเลาะเบาะแว้ง ชกต่อย ทําร้ายร่างกาย รวมกระทั่งถึงการทําสงคราม
ระหว่างกัน เป็นต้น
แต่ในระหว่างความต้องการทางเพศกับความก้าวร้าว สัญชาตญาณที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์มาก
ที่สุด ได้แก่ ความต้องการทางเพศ ด้วยเหตุนี้ฟรอยด์จึงอธิบายว่าบุคลิกภาพของมนุษย์ที่แสดงออกมานั้นจึง
เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของตนเป็นส่วนใหญ่ สําหรับบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบอิด (id
personality) นั้นจึงมักแสดงอะไรตามสัญชาตญาณของตนโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพียงเพื่อให้ตนเองได้รับ
การตอบสนองความสุขและความพอใจเพียงอย่างเดียว ซึ่งบุคลิกภาพเช่นนี้เราจะเห็นได้จากบุคคลในวัยทารก
หรือเด็กเล็กเป็นส่วนใหญ่
ข. อีโก้ (ego)เป็นพลังงานที่จะอยู่ในจิตสํานึกและกึ่งสํานึกเป็นส่วนใหญ่ เป็นพลังงานทางจิตใน
ส่วนที่จะทําหน้าที่บริหารพลังงานจากฝ่ายอิด และฝ่ายซูเปอร์อีโก้ให้สมดุลและแสดงออกให้สอดคล้องกับโลก
แห่งความเป็นจริง (reality principle) ที่สังคมยอมรับหรือเหมาะสมกับเหตุผลในสถานการณ์นั้น แต่ทั้งนี้
ย่อมขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของอีโก้ในแต่ละบุคคลนั้นด้วย
สําหรับบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบอีโก้ (ego personality) นั้นมักจะแสดงออกมาตามเหตุผล
และความเป็นจริงที่ตนพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมและถูกต้องเท่านั้น จะไม่สนใจเหตุผลและความคิดของผู้อื่น
ค. ซูเปอร์อีโก้ (super ego)เป็นพลังงานที่อยู่ภายในจิตสํานึกเป็นส่วนใหญ่ เป็นพลังงานทางจิต
ที่ก่อตัวขึ้นจากการเรียนรู้ในระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกา กฎของศีลธรรม และกฎหมายของสังคม ซูปเปอร์อีโก้จะ
เป็นตัวบอกให้รู้อะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด ควรหรือไม่ควร ซูเปอร์อีโก้จึงมีลักษณะเป็นพลังที่ตรงข้าม
กับอิด มีหน้าที่คอยควบคุมความต้องการทางเพศและความก้าวร้าวในอิดไม่ให้แสดงออกมา ส่วนซูเปอร์อีโก้จะ
ควบคุมอิดได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าซูเปอร์อีโก้ของบุคคลนั้นแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด โดยปกติแล้วซูเปอร์อีโก้
ของแต่ละบุคคลจะเริ่มพัฒนาขึ้นในตัวตั้งแต่อายุ 3-5 ปี หรือในระยะอวัยวะเพศ (phallic stage) เป็นต้นไป
สําหรับบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบซูเปอร์อีโก้ (super ego personality) มักจะชอบทําตาม
ระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกา และกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดมั่นในทฤษฎีและมีอุดมคติสูง