Page 502 - Full paper สอฉ.3-62

2) ตรวจสอบวิเคราะห์ความยากง่าย (p) ค่าอ านาจ ∑X = คะแนนรวมที่นักศึกษาท ากิจกรรม
จ าแนก (r) [3] และเลือกข้อที่มีความยากง่าย ระหว่าง 0.20-0.80 ระหว่างเรียน

และมีอ านาจจ าแนกที่มีค่าระหว่าง 0.20 N = จ านวนนักศึกษา
3) ตรวจสอบความเชื่อมั่น (Reliability) โดยใช้สูตร A = คะแนนเต็มของกิจกรรมระหว่างเรียน

KR-20 ของ Kuder-Richardson [4]

3.8 สถิติที่ใช้ในการวิจัย E = ∑ × 100
2
ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ B
3.8.1 การหาค่าสถิติพื้นฐาน คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วน E2 = คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละจากการ

เบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนที่ได้จากการทดสอบก่อนเรียน ท าแบบทดสอบหลังเรียนได้ถูกต้อง
และหลังเรียนโดยใช้สูตรดังนี้ [5] ∑F = คะแนนรวมที่นักศึกษาท าแบบวัดทักษะ
การคิดหลังเรียนได้ถูกต้อง
1) ค่าเฉลี่ย
N = จ านวนนักศึกษา
∑
μ = B = คะแนนเต็มของแบบวัดทักษะการ

คิดหลังเรียน
เมื่อ μ คือ ค่าคะแนนเฉลี่ย 3.8.3 การวิเคราะห์ความก้าวหน้าในการเรียนของ
∑ คือ ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม กลุ่มเป้าหมาย โดยใช้สูตร [7]
N คือ จ านวนคะแนนในกลุ่ม

2) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t = ∑
2
∑ −(∑ ) 2
√ −1

√ ∑ − (∑ ) 2
2
=  D = ผลรวมของผลต่างของคะแนนก่อนเรียนและ

หลังเรียน
เมื่อ คือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  D = ผลรวมของผลต่างของคะแนนก่อนเรียนและ
2
∑ คือ ผลรวมของคะแนนแต่ละคน หลังเรียนยกก าลังสอง
N แทนจ านวนคะแนนในกลุ่ม N = จ านวนนักศึกษาทั้งหมด

3.8.2 วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาประสิทธิภาพของ
แผนการจัดการเรียนรู้โจทย์กรณีศึกษา หัวข้อ การตรวจสอบ 3.8.4 วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบคุณภาพของแบบ
ภายในกิจกรรมที่ส าคัญขององค์กร วิชาการตรวจสอบภายใน วัดทักษะการคิด วิเคราะห์ ด าเนินการ ดังนี้

และการควบคุมภายใน รหัสวิชา 33-4201-2011 1) หาค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Consistency)
คะแนนกิจกรรมระหว่างเรียน และคะแนนจากการท า ของแบบวัดทักษะ การคิดวิเคราะห์ แต่ละข้อ กับผลการเรียนรู้

แบบทดสอบหลังเรียน โดยหาค่า E1 และ E2 [6] ที่คาดหวัง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม) ก าหนดเกณฑ์ค่า IOC
ตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไปจึงจะถือว่ามีความสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่

คาดหวัง [7]
∑
E = A × 100
1
IOC = ∑
E1 = คะแนนเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละจากการท า

กิจกรรมระหว่างเรียน

4
484