Page 9 - รวมอารยธรรมเกือบเสร็จ
P. 9

๕




               ซึ่งท าไว้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา และชาติอื่นๆ แต่ผลที่สบเนื่องของสงครามได้ส่งผลกระทบต่อ

               เศรษฐกิจโลกและยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยหลายประการ เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า

               เจ้าอยู่หัวขึ้นเสวยราชสมบัติเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๘ พระองค์จึงทรงประสบกับปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจซึ่ง

               ต้องทรงแก้ไขอย่างหนักหน่วง วิกฤตินี้ยังได้ส่งผลกระทบไปถึงการปกครองจนต้องปรับปรุงแก้ไข

               โครงสร้างบางอย่างของการปกครองในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีปัญหางบประมาณซึ่ง

               รายจ่ายสูงกว่ารายรับติดต่อกันมาตั้งแต่รัชกาลก่อนหลายปี ท าให้ต้องมีการปลดข้าราชการ ยุบเลิกหรือไม่ก็

               รวมกิจการบริหารต่างๆ มีการเพิ่มอัตราภาษีอากรให้สูงขึ้น แต่การแก้ปัญหาก็ไม่ท าให้ฐานะทางเศรษฐกิจ

               ของประเทศไม่ได้กระเตื้องขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกตกต ่าที่ส่งผลกระทบถึงเมืองไทยตั้งแต่ พ.ศ.


               ๒๔๗๒ อย่างต่อเนื่องวิกฤตการณ์นี้ท าให้เสถียรภาพของรัฐบาลเริ่มคลอนแคลนลงทุกขณะและท้ายสุดก็

               เป็นสาเหตุส าคัญอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศ


               การจัดรูปแบบการปกครองในสมัยปรับปรุงประเทศ



                       ๑.  การปฏิรูปการปกครองส่วนกลาง

                        การปฏิรูปครั้งส าคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเริ่มต้นประมาณปี พ.ศ.๒๔๓๐

               หลังจากที่พระเจ้าน้องยาเธอฯ กรมหมื่นเทววงศ์วโรปการเสด็จกลับจากดูงานการปกครองในอเมริกา ยุโรป

               ญี่ปุ่น และได้ท าบันทึกเสนอต่อรัชกาลที่ ๕ พระองค์ได้พิจารณาเห็นว่างคงจะพร้อมที่จะให้มีการปฏิรูปการ

               ปกครองหลังจากที่คอยมาร่วม ๑๐ ปี จึงได้ทรงตั้งกรมขึ้นใหม่ ๖ กรม เมื่อรวมที่มีอยู่เดิม ๖ กรมกลายเป็น

               กรมทั้งหมดมี ๑๒ กรมคือ กรมมหาดไทยท าหน้าที่ปกครองฝ่ายเหนือและฝ่ายเมืองลาว กรมพระกลาโหม

               ปกครองฝ่ายใต้ ตะวันออก ตะวันตกและมลายู กรมท่าดูแลต่างประเทศอย่างเดียวไม่ว่าการหัวเมืองชายทะเล

               เหมือนแต่ก่อน กรมวังดูแลในพระราชวังและกรมใกล้เคียงซึ่งรับราชการในองค์พระเจ้าอยู่หัว กรมเมืองว่า

               การต ารวจ การบัญชีพล(สุรัสวดี) และนักโทษ กรมนาดูแลการเพาะปลูก ค้าขาย ป่าไม้ และบ่อแร่ กรมพระ


               คลังดูแลภาษีอาการ เงินรับจ่ายในแผ่นดินทั้งหมด กรมยุติธรรม จัดการศาล ช าระความทั้งแพงและอาญา

               กรมยุทธนาธิการตรวจตราจัดการในกรมทหารบก ทหารเรือ กรมธรรมการจัดการศึกษาและการศาสนา กรม

               โยธาธิการ ก่อสร้าง ขุดคลอง การช่างทั่วไป การไปรษณีย์โทรเลขและรถไฟ กรมมุรธาธิการ รักษาพระราช

               ลัญจกร พระราชก าหนดกฎหมายและหนังสือราชการทั้งหมด ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๓๕ กรมต่างๆ เหล่านี้ได้รับ

               การยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงและอีก ๒ ปี  ถัดมาได้มี พ.ร.บ. พ.ศ.๒๔๓๗ แยกอ านาจหน้าที่ของ

               กระทรวงกลาโหมและมหาดไทยออกจากกันอย่างเด็ดขาด เมื่อได้ทรงก าหนดรูปแบบของการบริหาร
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14