Page 64 - โครงการแกว_Neat
P. 64
57
• สถานที่แคบเกินไป ทำให้กางแขนหรือเหยียดแข้งขาไม่ถนัด
• ผู้เต้นอาจมีน้ำหนักมากเกินไป
เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงมีผู้ดัดแปลงการเต้นตามแบบเดิมที่มีการกระโดดและใช้ขา
ค่อนข้างมาก หันมาใช้แขนทั้ง 2 ข้างให้มากขึ้น สำหรับขายังคงเคลื่อนไหวได้อยู่แต่ต้องให้มีข้างหนึ่งแตะพื้นอยู่
เสมอเป็นการเต้นโดยไม่มีการกระโดดตัวลอยนั่นเอง เรียกว่าเต้นแอโรบิกแบบโลว์อิมแพกต์ (Low impact
aerobic dance) หรือซอฟต์แอโรบิก (Soft aerobic)
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนการเต้นให้นุ่มนวลขึ้นโดยไม่กระโดดทั้งตัวแล้วยังมีการคิดวิธีเต้นกันในน้ำ
เรียกว่า “ไฮโดรแอโรบิก” (Hydro-aerobic) หรือไฮโดรยิมนาสติก
ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ ได้แก่
* กระตุ้นระบบหายใจ และการไหลเวียนของโลหิตให้ทำงาน อดทนและแข็งแรงขึ้น
* ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อเคลื่อนที่มากขึ้น ร่างกายจึงอ่อนตัวและยืดหยุ่นได้ดี
* กล้ามเนื้อและประสาททำงานประสานกันดีขึ้น ท่าให้ร่างกายคล่องแคล่ว การทรงตัวได้สมดุล มีความ
ไวในการสนองตอบต่อปฏิกิริยาต่างๆ
* สร้างเสริมความแข็งแรง และความกระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อออกแรงทำงานได้ดีขึ้นร่างกายมีรูปร่าง
ทรวดทรงดี น้ำหนักตัวพอเหมาะ
ข้อควรปฏิบัติในการออกกำลังกายแบบแอโรบิกดานซ์ มีดังนี้
* ควรฝึกสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งๆ ละ 30-45 นาที
* ความหนักในการออกกำลังกายควรเป็น 70% ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจคือประมาณไม่เกิน
150-160 ครั้งต่อนาที ในเด็กและวัยรุ่น 120-140 ครั้งต่อนาทีในวัยผู้ใหญ่และไม่เกิน 120 ครั้งต่อนาทีในวัย
ผู้สูงอายุ
* ควรเริ่มจากเบาๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มจนร่างกายปรับตัวได้
* ไม่ฝึกแบบกระแทก กระตุก หรือเปลี่ยนแปลงฉับพลันเพราะกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ
อาจฉีกขาดได้