Page 85 - 09_กฎหมายอนทเกยวของกบการปฏบตหนาท_Neat
P. 85
๗๘
คําวา “ประมาทเลินเลออยางรายแรง” ศาลปกครองสูงสุดไดตีความหมายถอยคํานี้ไววา
หมายถึง การกระทําโดยมิไดเจตนาแตเปนการกระทําซึ่งบุคคลคาดหมายไดวาจะกอใหเกิดความเสียหายขึ้น
และหากใชความระมัดระวังเพียงเล็กนอยก็อาจปองกันไมใหเกิดความเสียหายนั้นได แตกลับไมไดใช
ความระมัดระวังนั้นเลย (คําพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๑๐๖/๒๕๕๒)
กรณีที่ถือวา “ประมาทเลินเลออยางรายแรง”
๑. ไมไดใชความระมัดระวังเลยสักนิด
๒. ทําผิดซํ้าๆ ในเรื่องแบบเดียวกัน
๓. ปฏิบัติผิดมาตรฐานวิชาชีพ
๔. ฝาฝนกฎหมาย หรือระเบียบ
๕. กฎหมายหรือระเบียบกําหนดวิธีปฏิบัติไวแตไมไดทําหรือปฏิบัติตามนั้น
“¤ÇÒÁÃÐÁÑ´ÃÐÇѧμÒÁÇÔÊÑ” นั้น หมายถึง ความระมัดระวังตามสภาพของตัวผูกระทํานั้นเอง
เชน เด็กกับผูใหญ หรือผูมีความชํานาญในวิชาชีพเฉพาะดานกับคนทั่วไป เปนเจาหนาที่ชั้นผูใหญ
หรือชั้นผูนอย เปนเจาหนาที่ธรรมดาหรือผูเชี่ยวชาญ ดังนี้ ความระมัดระวังยอมแตกตางกัน
สวน “¤ÇÒÁÃÐÁÑ´ÃÐÇѧμÒÁ¾ÄμÔ¡Òó” หมายถึง ความระมัดระวังตามสภาพของเหตุแวดลอม
ซึ่งเปนเหตุภายนอกตัวผูกระทํา เชน สภาพฝนตกถนนลื่นกับแดดออกถนนแหง เวลากลางคืนกับเวลากลางวัน
ทางตรงกับทางโคง สภาพถนนกวางมียานยนตนอยกับที่คับขันหรือมียานยนตคับคั่ง สภาพของสถานที่ทํางาน
ของเจาหนาที่ จํานวนของประชาชนที่เขามาติดตอกับเจาหนาที่ เปนตน สภาพแวดลอมเหลานี้ทําใหตองใช
ความระมัดระวังที่แตกตางกัน
คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ»¡¤ÃͧÊÙ§ÊØ´·Õè Í.òù/òõôö การที่ผูฟองคดีไดรับแจงใหเขารับ
การฝกอบรมกอนถึงกําหนดฝกอบรมเพียง ๒ วันแลวผูฟองคดีไมไดตรวจสอบวาตนมีหนาที่ตองอยู
เวรยามในวันใด เพราะเปนเวลาที่กระชั้นชิดและผูฟองคดีมีราชการที่ตองออกไปปฏิบัตินอกสถานที่
อยางตอเนื่องและไมรายงานใหหัวหนาฝายทะเบียนการคาทราบเพื่อจะไดออกคําสั่งใหผูอื่นมาอยู
เวรยามแทนจึงมีเหตุผลพอที่จะรับฟงได ประกอบกับผูฟองคดีมีหนาที่ตองไปเขารับการฝกอบรมตาม
คําสั่งของผูบังคับบัญชาซึ่งเปนการกระทําโดยชอบในทางราชการจึงถือไมไดวาผูฟองคดีมีพฤติการณ
ละทิ้งหนาที่เวรยามและถือไมไดวาผูฟองคดีจงใจหรือประมาทเลินเลอเปนเหตุใหเกิดความเสียหาย
แกทางราชการ คําสั่งของกรมทะเบียนการคาที่สั่งใหผูฟองคดีชดใชคาเสียหายจึงเปนคําสั่งที่ไมชอบ
ดวยกฎหมาย
คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒÅ»¡¤ÃͧÊÙ§ÊØ´·Õè Í.òñô/òõõð นายไพศิษฐปลัดอําเภอรักษาราชการ
แทนนายอําเภอซึ่งเปนผูถูกฟองคดีที่ ๒ ไดปฏิบัติหนาที่โดยทําพินัยกรรมแบบเอกสารฝายเมืองใหกับ
นางอึ่งเมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๔๒ แลวเก็บรักษาพินัยกรรมนั้นไวทั้งที่นางอึ่งยังไมไดลงลายมือชื่อ
ในพินัยกรรมโดยไมไดตรวจสอบกอนวานางอึ่งผูทําพินัยกรรมไดลงลายมือชื่อแลวหรือไม เปนผลให
พินัยกรรมเปนโมฆะตามมาตรา ๑๗๐๕ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยกรณีจึงถือไดวาเปนการ
กระทําโดยประมาทเลินเลอในการปฏิบัติหนาที่