Page 83 - การจัดการความขัดแย้ง
P. 83
๗๔
ÃдѺ·Õè˹Öè§ : เหมือนกับการกลาวทวนในสิ่งที่ไดพูดออกไป เชน ผูพูด พูดวา “ฉันไป
เที่ยวประเทศนิวซีแลนดเพิ่งกลับมา เธอเอย! ทิวทัศนมันสวยมากจริงๆ เลย” ผูฟงก็จะกลาวทวนวา
“สวยมากจริงๆ เลยเหรอ?” ผูพูดจะรูสึกพอใจระดับหนึ่งที่ผูฟงแสดงความสนใจออกมาโดยกลาวทวน
ÃдѺ·ÕèÊͧ : เปนการกลาวทวนถึงคําพูดที่ไดพูดออกมาแตกลาวทวนในกรอบความคิด
ของผูฟง เชน ผูพูด พูดวา “ฉันไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนดเพิ่งกลับมา เธอเอย! ทิวทัศนมันสวยมากจริงๆ นะ
ผูฟงเมื่อจะกลาวทวนในระดับที่สองก็จะพูด “สวยจริงๆ เลยเหรอ? ฉันก็เคยไดยินเขาเลาวาสวยมาก”
ÃдѺ·ÕèÊÒÁ : เปนการกลาวทวนที่รวมทั้งประเด็นเนื้อหาและอารมณความรูสึกของผูพูด
เชน ผูพูดพูดวา “ฉันไปเที่ยวประเทศนิวซีแลนดเพิ่งกลับมา เธอเอย! ทิวทัศนมันสวยมากจริงๆ เลย”
ผูฟงจะกลาวทวนในระดับที่ ๓ วา “คงจะสวยมากจริงๆ เลยนะ ฟงนํ้าเสียงที่เธอดูแลวเธอมีความสุขมาก
ที่ไดไปเที่ยวนิวซีแลนดมาใชไหม?” เปนการรับรูในเนื้อหาคือ “สวย” และรับรูในประเด็นที่ซอนอยูของ
ความรูสึกที่ไมไดพูดออกมาแตอยูในภาษาทาทางและนํ้าเสียงของผูพูด
การกลาวทวนที่ใชในการเจรจามักจะใชทักษะในระดับที่สามนี้ ซึ่งการกลาวทวนดังกลาว
จะมีขั้นตอนสี่ขั้นตอน คือ
๑. ใหพิจารณาถึงความรูสึกของผูพูดที่แสดงออกมาทางภาษา ทาทางและนํ้าเสียง
๒. ใหประเมินความรุนแรงของความรูสึกของผูพูดนั้น
๓. เลือกคําที่เหมาะสมที่อธิบาย “ความรูสึก” ใหตรงกับอารมณและความรุนแรงที่
แสดงออกมาของผูพูด
๔. จัดเรียงประโยคคําพูดจากคําที่เลือก แลวกลาวทวนออกไป การกลาวทวนหลายครั้ง
จะเปนการกลาวอยางตอเนื่องไปเรื่อยๆ ฉะนั้นผูฟงจะตองหัดฟงอยางตั้งใจและประเมินอารมณ
รวมถึงเนื้อหาแลวกลาวทวนในระดับตางๆ ตามความเหมาะสม
วิธีการกลาวทวนดังกลาวจําเปนตองมีการฝกหัดอยูเปนประจํา เพราะบางครั้งถาใชไมเปน
ไมเหมาะสม ก็อาจจะเกิดปญหา เชน ประเมินความรูสึกหรืออารมณคลาดเคลื่อนจากอารมณที่แทจริง
ของผูพูดโดยเฉพาะประเมินตํ่าไป แลวไปกลาวทวนความรูสึก เชน กรณีญาติผูปวยกําลังโกรธที่ผูปวย
ตกเตียงแลวเสียชีวิต กําลังมีอารมณโกรธมากกลับไปกลาวทวนเพียงวา “พี่คงäÁ‹¤‹Í¾Íã¨ที่พอ
ของพี่ตกเตียงตายใชไหม?” อาจจะถูกอัดกลับวา “ไมใชไมคอยพอใจโวย! โกรธมากทีเดียวโวย!” ก็เปนได
จึงตองฝกฝนการฟงอยางตั้งใจใหดีและหัดกลาวทวนบอยๆ
¡ÒÃμÑé§คํา¶ÒÁ
การตั้งคําถามมีความจําเปนอยางยิ่งในการเปนผูฟงและผูพูด การตั้งคําถามกรณีเปนผูฟง
ก็คือ เพื่อใหไดรับความกระจางและความเขาใจในคําพูดของผูพูด จึงตองถามใหชัดเจนวาเขาใจตรงกับ
ที่ผูพูดตั้งใจจะสื่อออกมาหรือไม การตั้งคําถามสวนใหญจึงจะเปนคําถามปลายเปด
¡ÒÃμÑé§คํา¶ÒÁ㹡ÒÃà¨Ã¨Òä¡Å‹à¡ÅÕè ก็เพื่อประโยชน ดังตอไปนี้
๑. เพื่อกระตุนใหแสดงความคิดเห็น
๒. เพื่อแสวงหาและตรวจสอบทัศนคติหรือมุมมองของผูพูดในประเด็นที่กําลังพูดคุยกัน