Page 77 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 77

กำายานเครือ                                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย  ก�าลังเสือโคร่ง
                    Byttneria pilosa Roxb.
                       ไม้เถา มีขนรูปดาวและขนยาวกระจายตามกิ่ง ใบ ก้านใบ ช่อดอก และดอก
                    ใบรูปหัวใจ ยาว 7-16 ซม. จัก 5-7 พู พูกลางปลายยาวคล้ายหาง ขอบจักฟันเลื่อย
                    เส้นโคนใบข้างละ 2-3 เส้น ก้านใบยาว 2-15 ซม. ช่อดอกยาวได้ถึง 20 ซม. ก้านดอก
                    ยาวประมาณ 2.5 มม. กลีบเลี้ยงยาวประมาณ 3 มม. กลีบดอกยาว 4-5 มม. เส้าเกสร
                    รูปถ้วย รังไข่มีต่อมกระจาย ก้านเกสรเพศเมียรูปลิ่มแคบ ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง
                    2-2.5 ซม. รวมขนยาว ปลายขนส่วนมากเป็นตะขอ ก้านผลยาว 1-2 ซม เมล็ดรูปรี
                    ผิวมี 3 สันตื้น ๆ
                       พบที่พม่า จีนตอนใต้ อินเดีย ลาว เวียดนาม และคาบสมุทรมลายู ในไทยพบ
                    ทุกภาค ขึ้นกระจายตามชายป่า ความสูงถึงประมาณ 500 เมตร
                      เอกสารอ้างอิง
                       Phengklai, C. (2001). Sterculiaceae. In Flora of Thailand Vol. 7(3): 544-550.  ก�าลังช้างสาร: ช่อดอกแบบช่อกระจุก ดอกขนาดใหญ่รูปกรวยกว้าง กลีบดอกเรียงซ้อนทับด้านขวาในตาดอก
                       Tang, Y., M.G. Gilbert and L.J. Dorr. (2007). Sterculiaceae. In Flora of China   กลีบเลี้ยงคล้ายใบประดับ ผลแตกแนวเดียว รูปขอบขนาน ขนาดใหญ่ (ภาพ: พบพระ ตาก - RP)
                          Vol. 12: 322-323.
                                                                        กำาลังวัวเถลิง
                                                                        Anaxagorea luzonensis A. Gray
                                                                        วงศ์ Annonaceae
                                                                           ไม้พุ่ม สูง 0.5-2 ม. เกลี้ยง ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 10-16 ซม. โคนกลม
                                                                        เส้นแขนงใบข้างละ 6-9 เส้น ก้านใบยาว 0.6-2 ซม. ดอกออกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก
                                                                        2-3 ดอก ตามซอกใบ ตรงข้ามใบ หรือตามล�าต้น ก้านดอกยาว 0.6-1 ซม. ใบประดับ
                                                                        1 คู่ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ รูปไข่กว้าง ยาวประมาณ 5 มม. ดอกสีเขียวอมขาว กลีบวงนอก
                                                                        3 กลีบ รูปขอบขนาน ยาวประมาณ 1.5 ซม. กลีบวงใน 3 กลีบ รูปใบหอก ยาว
                                                                        0.6-1 ซม. มีก้านกลีบสั้น ๆ เกสรเพศผู้ยาวประมาณ 3 มม. มี 5-7 คาร์เพล มี 3-6
                                                                        ผลย่อยแห้งแล้วแตก รูปกระบอง ยาว 1.5-3 ซม. ก้านผลยาว 1.5-2 ซม. มี 2 เมล็ด
                                                                        รูปไข่กลับ ยาวประมาณ 1 ซม. สีน�้าตาลด�าเป็นมันวาว (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ จ�าปูน, สกุล)
                                                                           พบที่ศรีลังกา อินเดีย ไห่หนาน พม่า ลาว เวียดนาม คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว
                                                                        ชวา สุมาตรา และฟิลิปปินส์ ในไทยพบทางภาคเหนือตอนล่างจนถึงภาคใต้ ขึ้นตาม
                      ก�ายานเครือ: มีขนรูปดาวและขนยาวกระจาย ใบรูปหัวใจ จัก 5-7 พู ผลมีขนยาว ปลายขนเป็นตะขอ (ภาพ:
                    ทองผาภูมิ กาญจนบุรี - RP)                           ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น ความสูง 100-700 เมตร เป็นไม้ประดับในร่ม
                    กำาลังช้างสาร                                         เอกสารอ้างอิง
                    Beaumontia murtonii Craib                              Li, B. and M.G. Gilbert. (2011). Annonaceae (Anaxagorea). In Flora of China
                                                                              Vol. 19: 673.
                    วงศ์ Apocynaceae
                       ไม้เถา ล�าต้นมีช่องอากาศ กิ่งมีขนสั้นนุ่ม ใบเรียงตรงข้าม มีต่อมยาวตามซอกใบ
                    ใบรูปรีหรือรูปไข่กลับ ยาว 9-30 ซม. ก้านใบยาว 1-2.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก
                    ยาวได้ถึง 20 ซม. มี 3-15 ดอก ใบประดับขนาดใหญ่ ร่วงเร็ว กลีบเลี้ยงคล้าย
                    ใบประดับ 5 กลีบ รูปไข่ ยาว 2.5-4 ซม. ดอกสีขาว กลีบดอกเรียงซ้อนทับด้าน
                    ขวาในตาดอก ดอกบานรูปกรวยกว้าง หลอดกลีบยาว 4-6 ซม. ปลายแยกเป็น
                    5 กลีบ ยาว 1.8-5.6 ซม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดใต้กึ่งกลางหลอดกลีบ ก้านชูอับเรณู
                    ยาว 1.5-3.5 ซม. ยื่นพ้นปากหลอดกลีบ อับเรณูแนบติดกับเกสรเพศเมีย อับเรณู
                    ยาว 1-1.4 ซม. โคนเป็นเงี่ยง จานฐานดอกจัก 5 พู มี 2 คาร์เพล เชื่อมติดกัน
                    เรียวยาวเป็นก้านเกสรเพศเมีย มีขนหนาแน่น ออวุลจ�านวนมาก ก้านเกสรเพศเมีย
                    ยาวประมาณ 3.6 ซม. รวมยอดเกสรเพศเมีย ผลแตกแนวเดียว รูปขอบขนาน
                    ยาวได้ถึง 20 ซม. ผิวมีช่องอากาศ เมล็ดจ�านวนมาก เรียว ยาว 1-2 ซม. ปลายมี
                    กระจุกขน ยาว 3-8 ซม.
                       พบที่จีนตอนใต้ ภูมิภาคอินโดจีน และคาบสมุทรมลายู ในไทยพบกระจาย
                                                                          ก�าลังวัวเถลิง: ดอกออกเดี่ยวหรือเป็นกระจุก 2-3 ดอก กลีบดอกวงนอก 3 กลีบ วงใน 3 กลีบ เกสรเพศผู้จ�านวนมาก
                    ห่าง ๆ ทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้   ผลรูปกระบอง (ภาพซ้าย: cultivated, ภาพขวา: น�้าตกสี่ขีด นครศรีธรรมราช; - RP)
                    และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง โดยเฉพาะริมล�าธาร
                    ความสูงระดับต�่า ๆ ยางมีพิษใช้อาบหัวลูกศร           กำาลังเสือโคร่ง
                                                                        Betula alnoides Buch.-Ham. ex D. Don
                       สกุล Beaumontia Wall. มี 10 ชนิด พบในเอเชียเขตร้อน ในไทยมีพืชพื้นเมือง
                       3 ชนิด เป็นไม้ประดับ 1 ชนิด คือ หิรัญญิการ์ B. multiflora Teijsm. & Binn. มี  วงศ์ Betulaceae
                       ถิ่นกำาเนิดในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย กลีบเลี้ยงขนาดเล็กกว่า ก้านชูอับเรณู  ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. แยกเพศร่วมต้น เปลือกลอกเป็นแผ่นบาง ๆ ตายอด
                       สั้น ชื่อสกุลตั้งตาม Lady Diane Beaumont (1786-1854) ผู้ส่งตัวอย่างพรรณไม้  มีเกล็ดเรียงซ้อนเหลื่อมหนาแน่น มีต่อมชันและขนยาวหนาแน่นตามกิ่ง แผ่นใบ
                       ให้กับ Nathaniel Wallich นักพฤกษศาสตร์ชาวดัตช์ ที่สวนพฤกษศาสตร์กัลกัตตา   ด้านล่าง ก้านใบ และก้านช่อดอก ใบเรียงเวียน รูปไข่ หรือแกมรูปขอบขนาน
                       ในอินเดีย                                        ยาว 4-14 ซม. ปลายแหลมยาวหรือยาวคล้ายหาง ขอบจักฟันเลื่อย ก้านใบยาว
                                                                        1.5-4 ซม. ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ห้อยลง รูปทรงกระบอก ใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อม
                      เอกสารอ้างอิง
                       Middleton, D.J. (1999). Apocynaceae. In Flora of Thailand Vol. 7(1): 103-104.  ปลายจัก 3 พู แต่ละใบประดับมี 3 ดอก ใบประดับย่อย 1 คู่ ไม่มีกลีบดอก

                                                                                                                      57






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   57                                                                  3/1/16   5:12 PM
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82