Page 84 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 84

กูดฮ่อม


                กูดฮ่อม, สกุล       สารานุกรมพืชในประเทศไทย           เอกสารอ้างอิง
                                                                       Lindsay, S. and D.J. Middleton. (2012 onwards). Ferns of Thailand, Laos and
                Selliguea Bory                                            Cambodia. http://rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns/
                วงศ์ Polypodiaceae                                     Lu, S., P.H. Hovenkamp and M.G. Gilbert. (2013). Polypodiaceae (Selliguea).
                                                                          In Flora of China Vol. 2-3: 773, 775, 779.
                   เฟินอิงอาศัยหรือขึ้นบนหิน เหง้าทอดนอน เกล็ดสีน�้าตาลเข้มหรือด�าหนาแน่น   Tagawa, M. and K. Iwatsuki. (1989). Polypodiaceae (Crypsinus). In Flora of
                ปลายเรียวแหลม ใบไม่สร้างสปอร์และใบสร้างสปอร์เหมือนหรือต่างกัน เรียงห่าง ๆ   Thailand Vol. 3(4): 556, 559-561.
                ใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ หรือจักเป็นพู ก้านใบมีเกล็ดที่โคน เส้นใบชัดเจน เรียงจรดกัน
                เป็นช่องร่างแห มีเส้นใบย่อย กลุ่มอับสปอร์รูปกลม เรียงแถวเดียวหรือหลายแถว
                ในแต่ละข้างเส้นกลางใบ อับสปอร์มีก้าน เซลล์ผนังหนา อับสปอร์รูปรี ผิวมีตุ่ม
                หรือปุ่มกระจาย
                   สกุล Selliguea บางครั้งอยู่ภายใต้วงศ์ Drynariaceae มี 110-115 ชนิด ซึ่งรวมสกุล
                   Crypsinus หรือบางครั้งรวมถึงสกุล Phymatopteris พบ เอเชีย ออสเตรเลีย
                   และหมู่เกาะแปซิฟิก ในแอฟริกาใต้และมาดากัสการ์พบแห่งละชนิดเดียว พบมาก
                   ในนิวกินี ในไทยมี 12 ชนิด หรือ 16 ชนิด (รวมสกุล Phymatopteris)

                กูดฮ่อม
                Selliguea oxyloba (Wall. ex Kunze) Fraser-Jenk.
                  ชื่อพ้อง Polypodium oxylobum Wall. ex Kunze, Crypsinus oxylobus (Wall.
                    ex Kunze) Sledge                                  กูดฮ่อม: เฟินอิงอาศัย เหง้ามีขนหนาแน่น ใบจักเป็นพู 3-8 คู่ พูปลายยาวกว่าพูข้าง โคนเชื่อมติดกันเป็นปีก
                   เฟินอิงอาศัย เหง้าเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. มีขนหนาแน่น เกล็ดยาว  (ภาพ: ภูหลวง เลย - TP)
                ประมาณ 5 มม. ขอบเกล็ดจักฟันเลื่อย ใบจักเป็นพู 3-8 คู่ กว้างได้ถึง 25 ซม.
                ยาวได้ถึง 30 ซม. พูรูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 15 ซม. พูปลายยาวกว่าพูข้าง ปลาย
                เรียวแหลม โคนเชื่อมติดกันเป็นปีก แผ่นใบบาง เกลี้ยง กลุ่มอับสปอร์ติดระหว่าง
                เส้นแขนงใบ เรียงแถวเดียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 มม.
                   พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ พม่า และภูมิภาคอินโดจีน ในไทยส่วนมากพบทาง
                ภาคเหนือ กระจายห่าง ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลย ภาคตะวันออกที่
                เขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี ขึ้นตามป่าดิบเขา   กูดฮ่อมใบขน: ใบรูปเงี่ยงลูกศร หรือจักข้างละพู โคนคอด แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม กลุ่มอับสปอร์เรียงแถวเดียว
                ความสูง 1000-2300 เมตร                               (ภาพ: ภูหินร่องกล้า พิษณุโลก - TP)

                กูดฮ่อมใบขน
                Selliguea hirsuta (Tagawa & K. Iwats.) S. Linds.
                  ชื่อพ้อง Crypsinus hirsutus Tagawa & K. Iwats.
                   เฟินขึ้นบนก้อนหิน เหง้าเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 มม. เกล็ดยาวประมาณ 4 มม.
                ใบรูปเงี่ยงลูกศร หรือจักข้างละพู กว้างได้ถึง 21 ซม. ยาวได้ถึง 24 ซม. พูข้าง
                รูปเคียว กว้าง 2-3 ซม. ยาวได้ถึง 12 ซม. ปลายแหลม พูปลายยาวได้ถึง 20 ซม.
                โคนคอด แผ่นใบบาง ด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม ก้านใบยาวได้ถึง 12 ซม. มีขนสั้นนุ่ม
                หนาแน่น เส้นแขนงใบชัดเจน เส้นใบชัดเจนหรือไม่ชัดเจน กลุ่มอับสปอร์ติดระหว่าง
                                                                      กูดฮ่อมใบเล็ก: ใบมี 2 แบบ ใบไม่สร้างสปอร์ขนาดเล็ก ก้านสั้น ใบสร้างสปอร์รูปใบหอก ก้านยาว ขอบใบหนา
                เส้นแขนงใบเรียงแถวเดียว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม.  กลุ่มอับสปอร์เรียงแถวเดียว (ภาพ: ภูหลวง เลย - TP)
                   พืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ เชียงราย ตาก พิษณุโลก
                และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลย ขึ้นตามโขดหินที่แห้งหรือที่ชุ่มชื้น ในป่าดิบเขา   เกซอนลา
                ความสูง 1000-1800 เมตร                               Clerodendrum quadriloculare (Blanco) Merr.
                                                                     วงศ์ Lamiaceae
                กูดฮ่อมใบเล็ก                                         ชื่อพ้อง Ligustrum quadriloculare Blanco
                Selliguea rhynchophylla (Hook.) Fraser-Jenk.           ไม้พุ่ม สูง 2-5 ม. ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 15-20 ซม. แผ่นใบด้านล่าง
                  ชื่อพ้อง Polypodium rhynchophyllum Hook., Crypsinus rhynchophyllus   สีม่วงแดงอมเขียว ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงออกสั้น ๆ ที่ปลายกิ่ง หลอด
                    (Hook.) Copel.                                   กลีบเลี้ยงยาว 0.7-1 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปสามเหลี่ยม ยาว 3-5 มม.
                   เฟินอิงอาศัย เหง้าเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 มม. เกล็ดยาวประมาณ 5 มม.   สีม่วงอมแดง ติดทน ดอกรูปดอกเข็ม หลอดกลีบดอกยาว 7-10 ซม. ด้านนอก
                ใบไม่สร้างสปอร์รูปไข่หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 2-3.5 ซม. โคนและปลายแหลม   สีชมพูอมแดง ปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปใบหอก ยาว 1-1.5 ซม. ด้านนอกสีขาว
                ก้านยาว 0.5-2 ซม. ใบสร้างสปอร์รูปใบหอก ยาว 5-14 ซม. ช่วงกว้างอยู่เหนือ  อมชมพู ด้านในสีขาว กลีบค่อนข้างหนา เกสรเพศผู้ 4 อัน ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก
                โคนเล็กน้อย ช่วงมีสปอร์เรียวแคบ โคนรูปลิ่ม ก้านยาว 1.5-5 ซม. เส้นแขนงใบ  ผลรูปไข่ สุกสีม่วงอมด�า กลีบเลี้ยงสีแดง มี 4 ไพรีน (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ นางแย้ม, สกุล)
                ไม่ชัดเจน แผ่นใบและขอบหนา เกลี้ยง สีน�้าตาลเข้มหรือด�า กลุ่มอับสปอร์ติด   มีถิ่นก�าเนิดที่ฟิลิปปินส์ และนิวกินี ในไทยปลูกเป็นไม้ประดับ โดยเฉพาะทาง
                ระหว่างเส้นแขนงใบ เรียงแถวเดียว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 มม.   ภาคเหนือที่มีอากาศเย็น ไม่ติดผล ขยายพันธุ์ด้วยไหล ใบมีสรรพคุณใช้สมานแผลสด
                   พบที่อินเดีย พม่า จีนตอนใต้ ภูมิภาคอินโดจีน ฟิลิปปินส์ ในไทยพบทางภาคเหนือ  แผลน�้าร้อนลวก
                ที่เชียงใหม่ พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลย ภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่  เอกสารอ้างอิง
                จันทบุรี และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี ส่วนมากขึ้นตามต้นไม้ที่มีมอส  Staples, G.W. and D.R. Herbst. (2005). A tropical garden flora. Bishop Museum
                ปกคลุมในป่าดิบเขา ความสูง 1200-1700 เมตร                  Press, Honolulu, Hawai`i.

                64






        59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd   64                                                                  3/1/16   5:14 PM
   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89