Page 57 - เศรษฐกิจต้นnew.indd
P. 57
50
เพื่อชวยเหลือราษฎร นับเปนจุดเริ่มตนแหงที่มาของ “เศรษฐกิจพอเพียง” นับตั้งแตอดีตกาล
แมกระทั่งโครงการแรกๆ แถวจังหวัดเพชรบุรี ก็ทรงกําชับหนวยราชการมิใหนําเครื่องกลหนัก
เขาไปทํางาน รับสั่งวาหากนําเขาไปเร็วนัก ชาวบานจะละทิ้งจอบ เสียม และในอนาคตจะชวย
ตัวเองไมได ซึ่งก็เปนจริงในปจจุบัน
จากนั้นไดทรงคิดคนวิธีการที่จะชวยเหลือราษฎรดานการเกษตร จึงไดทรงคิด“ทฤษฎี
ใหม”ขึ้นเมื่อป 2535 ณ โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณวัดมงคลชัยพัฒนาอันเนื่องมาจาก
พระราชดําริจังหวัดสระบุรี เพื่อเปนตัวอยางสําหรับการทําการเกษตรใหแกราษฎร ในการ
จัดการดานที่ดินและแหลงน้ําในลักษณะ 30 : 30 : 30 : 10 คือ ขุดสระและเลี้ยง
ปลา 30 ปลูกขาว 30 ปลูกพืชไรพืชสวน 30 และสําหรับเปนที่อยูอาศัย ปลูกพืชสวนและ
เลี้ยงสัตวใน 10 สุดทาย
ตอมาไดพระราชทานพระราชดําริเพิ่มเติมมาโดยตลอด เพื่อใหเกษตรกร ซึ่งเปนคนสวน
ใหญของประเทศมีความแข็งแรงพอ กอนที่จะไปผลิตเพื่อการคาหรือเชิงพาณิชย โดยยึดหลักการ
“ทฤษฎีใหม” 3 ขั้น คือ ขั้นที่ 1 มีความพอเพียง เลี้ยงตัวเองได ขั้นที่ 2 รวมพลังกันในรูปกลุม
เพื่อการผลิต การตลาด การจัดการ รวมทั้งดานสวัสดิการ การศึกษา การพัฒนาสังคม
ขั้นที่ 3 สรางเครือขาย กลุมอาชีพและขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย
จากแนวทางหลักการ “ทฤษฎีใหม” สามารถนําสูแนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง
ที่นําไปใชไดกับทุกภาคสวนในสังคมชุมชน ดังนี้
ขั้นที่หนึ่ง มีความพอเพียง เลี้ยงตัวเองไดบนพื้นฐานของความประหยัด ขจัดการใชจาย
เปนระบบเศรษฐกิจที่ยึดถือหลักการที่วา “ตนเปนที่พึ่งแหงตน” โดยมุงเนนการผลิตพืชผลให
เพียงพอกับความตองการบริโภคในครัวเรือนเปนอันดับแรกเมื่อเหลือพอจากการบริโภคแลว
จึงคํานึงถึงการผลิตเพื่อการคาเปนอันดับรองลงมา ผลผลิตสวนเกินที่ออกสูตลาดก็จะเปนกําไร
ของเกษตรกรในสภาพการณเชนนี้เกษตรกรจะกลายสถานะเปนผูกําหนดหรือเปนผูกระทําตอ
ตลาด แทนที่วาตลาดจะเปนตัวกระทําหรือเปนตัวกําหนดเกษตรกรดังเชนที่เปนอยูในขณะนี้
และหลักใหญสําคัญยิ่ง คือ การลดคาใชจายโดยการสรางสิ่งอุปโภคบริโภคในที่ดินของ
ตนเอง เชน ขาว น้ํา ปลา ไก ไมผล พืชผัก ฯลฯ
เศรษฐกิจพอเพียง ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : ทช21001 57
ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์