Page 277 - คำวินิจฉัยศาลปกครองด้านพัสดุ
P. 277

๒๖๓





                       ให้จัดท าเป็นประกาศ และมีสาระส าคัญดังนี้ (๑) รายการพัสดุที่ต้องการซื้อ หรืองานที่ต้องการจ้าง
                       (๒) คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าประกวดราคา  นอกจากนี้ ส านักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มี
                       หนังสือ ที่ นร ๐๑๐๓/ว.๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๒ แจ้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้ง

                            ้
                       ผู้ถูกฟองคดีที่ ๒ ว่า ในการประกาศประกวดราคาจะต้องมีรายละเอียดที่ชัดแจ้งเกี่ยวกับ
                       คุณสมบัติของผู้ซื้อแบบและเอกสารประกวดราคา เพื่อให้ผู้ประสงค์จะเข้าแข่งขันได้ทราบ
                       ล่วงหน้าและจะได้ด าเนินการให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของประกาศประกวดราคานั้น  เมื่อคดีนี้
                                               ้
                                                                   ้
                       ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ถูกฟองคดีที่ ๓ โดยผู้ถูกฟองคดีที่ ๒ ได้ก าหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ
                       เสนอราคาไว้ในเอกสารประกวดราคาข้อ ๒.๕ (๑) และข้อ ๒.๖ (๑) เพิ่มเติมจากประกาศ
                                                                                          ้
                       ประกวดราคา ซึ่งบุคคลทั่วไปที่สนใจจะเข้าแข่งขันประกวดราคารวมทั้งผู้ฟองคดีจะทราบถึง
                       รายละเอียดดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อได้ซื้อเอกสารประกวดราคานั้นแล้ว จึงถือเป็นการด าเนินการ
                       ออกประกาศประกวดราคาโดยไม่เปิดเผย โปร่งใส และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม

                       กรณีจึงไม่ชอบด้วยระเบียบส านักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุฯ ข้อ ๑๕ ทวิ ข้อ ๓๐ ข้อ ๓๑

                       และข้อ ๔๔ และเป็นการขัดแย้งกับแนวปฏิบัติตามหนังสือส านักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีข้างต้น
                                                                                                ้
                       ซึ่งบังคับให้ทุกส่วนราชการต้องถือปฏิบัติ และเมื่อการด าเนินการของผู้ถูกฟองคดีที่ ๒
                                                         ้
                       ได้กระท าในการปฏิบัติหน้าที่ท าให้ผู้ฟองคดีได้รับความเสียหาย จึงเป็นการกระท าละเมิดต่อ
                                                                                          ้
                         ้
                                     ้
                       ผู้ฟองคดี ผู้ถูกฟองคดีที่ ๓ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นต้นสังกัดของผู้ถูกฟองคดีที่ ๒ จึงต้อง
                                                                                                       ๒๑๙
                                                   ้
                       รับผิดในผลแห่งละเมิดที่ผู้ถูกฟองคดีที่ ๒ ได้กระท าในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๕
                                                                                               ้
                       แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เมื่อผู้ฟองคดีได้รับ
                                                                                                 ้
                       ความเสียหายจากการซื้อประกาศประกวดราคาเป็นจ านวนเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท ผู้ถูกฟองคดีที่ ๓
                                                                                  ้
                                                                                                    ้
                       จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจ านวน ๕๐,๐๐๐ บาท ให้แก่ผู้ฟองคดี ส่วนกรณีที่ผู้ฟองคดี
                        ้
                                                                                                    ้
                       ฟองขอให้ศาลเพิกถอนประกาศประกวดราคาพิพาทนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ถูกฟองคดี
                       ที่ ๓ ได้ด าเนินการประกวดราคาจนกระทั่งได้ผู้รับจ้าง และมีการส่งมอบงานตามสัญญา
                                                                                                    ่
                       เรียบร้อยแล้ว การเพิกถอนประกาศประกวดราคาพิพาทจึงไม่เกิดประโยชน์แก่ฝายใด
                                      ้
                                                                                                     ้
                       พิพากษาให้ผู้ถูกฟองคดีที่ ๓ คืนเงินค่าซื้อเอกสารประกวดราคาจ านวน ๕๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้ฟองคดี
                       ภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด (ค าพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๙๘/๒๕๕๔)



                              ๒๑๙  พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
                                 มาตรา ๕ หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่ของตนได้กระท า
                                                                                                ้
                                                          ้
                       ในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟองหน่วยงานของรัฐดังกล่าวได้โดยตรง แต่จะฟองเจ้าหน้าที่
                       ไม่ได้
                                                    ฯลฯ                  ฯลฯ
   272   273   274   275   276   277   278   279   280   281   282