Page 71 - Connect with respect: preventing gender-based violence in schools; classroom programme for students in early secondary school (ages 11-14); 2016
P. 71
ี
่
กิจกรรมท 5: ความแตกต่างกับการเลือกปฏิบัต ิ 9. เม่อนักเรียนวำงกระดำษสถำนกำรณ์ครบหมดทุกคนแล้ว ครูรวมกระดำษสถำนกำรณ์
ื
สองถึงสำมสถำนกำรณ์เข้ำด้วยกัน แล้วถำมนักเรียนว่ำ ถ้ำผู้ท่ถูกเลือกปฏิบัติมีลักษณะ หัวข้อที่
ี
ขั้นตอนการสอน ส่วนบุคคลมำกกว่ำหนึ่งลักษณะ ระดับกำรเลือกปฏิบัติควรจะอยู่ท่ระดับใด ยกตัวอย่ำง 2
ี
ี
ื
1. อธิบำยให้นักเรียนฟังว่ำในสังคมจะมีคนบำงคนหรือบำงกลุ่มท่พลังอ�ำนำจน้อยกว่ำผู้อ่น เช่นบุคคลดังต่อไปนี้ กิจกรรมที่
ี
ิ
ึ
ี
คนกลุ่มน้จะมีควำมเส่ยงและเปรำะบำงต่อกำรถูกเลือกปฏิบัติมำกย่งข้น ครูเขียนค�ำว่ำ • หญิงสำวที่อำศัยอยู่ในค่ำยผู้ลี้ภัย 5
“กำรเลือกปฏิบัติ” บนกระดำน • คนพิกำรที่มีฐำนะยำกจน
• คนกลุ่มชำติพันธุ์ที่เป็นชนกลุ่มน้อยผู้ด้อยโอกำสและว่ำงงำน
ี
2. ครูให้นักเรียนบอกควำมหมำยของค�ำตำมท่นักเรียนเข้ำใจ จดค�ำส�ำคัญตำมท่นักเรียน
ี
ื
ี
ั
ู
ั
ู
ุ
ั
็
บอกรวบรวมไว้บนกระดำน 10. ครให้นกเรียนดเส้นระดบควำมรนแรงของกำรเลอกปฏิบติท่วำงสถำนกำรณ์เสรจ 30 นาที
เรียบร้อยแล้ว และให้นักเรียนแสดงควำมคิดเห็นว่ำ นักเรียนสังเกตเห็นรูปแบบควำม
3. ครูอธิบำยควำมหมำยและเขียนค�ำนิยำมบนกระดำน กำรเลือกปฏิบัติ คือ วิธีปฏิบัติ ไม่เป็นธรรมบ้ำงหรือไม่ มีลักษณะอย่ำงไรบ้ำง ถ้ำนักเรียนไม่สำมำรถตอบได้ ครูควร
ั
ึ
ี
ื
ท่ไม่เป็นธรรมต่อคนบำงคนหรือบำงจ�ำพวก ซ่งโดยท่วไปมักจะมีพ้นฐำนมำจำก ช่วยแนะน�ำให้นักเรียนต้งข้อสังเกตว่ำ คนบำงคนหรือบำงจ�ำพวกต้องเผชิญควำม จุดประสงค์
ั
ลักษณะแตกต่ำงบำงประกำร ได้แก่ เพศสรีระ ศำสนำ สัญชำติ ชำติพันธุ์ (วัฒนธรรม) ด้อยโอกำสและกำรเลือกปฏิบัติหลำยรูปแบบ นอกจำกน้นแล้ว กลุ่มน้ยังเป็นกลุ่ม การเรียนรู้
ี
ั
เชื้อชำติ ฐำนะทำงสังคม หรือลักษณะส่วนบุคคลอื่นๆ ในกิจกรรมนี้นักเรียนจะ
ี
บุคคลท่ต้องกำรควำมช่วยเหลืออย่ำงมำกท่สุดจำกผู้คนท่อยู่รำยล้อมรอบๆ ตัวพวกเขำ ได้:
ี
ี
ี
ั
4. ครูให้นักเรียนท�ำกิจกรรมระดมสมองเพ่อระบุคนกลุ่มต่ำงๆ ท่วโลกท่เคยเผชิญ ด้วยกำรชี้แนะสำธำรณะและผลักดันเชิงนโยบำยเพื่อสิทธิที่ทุกคนพึงได้รับ • ท�ำควำมเข้ำใจ
ื
เหตุกำรณ์กำรเลือกปฏิบัติ โดยให้นักเรียนจดแต่ละสถำนกำรณ์แยกกันไว้ในกระดำษ ศัพท์ค�ำว่ำ กำรเลือก
คนละแผ่น เม่อได้สถำนกำรณ์ต่ำงๆ มำแล้ว ครูให้นักเรยนนึกถึงสถำนกำรณ์ใน 11. สรุปประเด็นส�าคัญ: ปฏิบัติ
ี
ื
ประเทศไทยท่มีลักษณะเดียวกันหรือคล้ำยคลึงกัน และให้นักเรียนบอกว่ำในแต่ละ กิจกรรมนี้ช่วยให้เรำได้เรียนรู้ประเด็นต่ำงๆ ว่ำ: • เพิ่มกำรตระหนัก
ี
ี
สถำนกำรณ์นั้นใครคือผู้ถูกเลือกปฏิบัติ ทั้งสถำนกำรณ์ในประเทศและต่ำงประเทศ • บำงคนได้รับกำรปฏิบัติด้วยวิธีท่ไม่ดีเพรำะสำเหตุจำกเพศภำวะ ศำสนำ ชำติพันธ ุ์ ว่ำกำรเลือกปฏิบัติ
คือกำรใช้พลังอ�ำนำจ
(วัฒนธรรม) เชื้อชำติ วิถีทำงเพศ ฐำนะทำงสังคม หรือลักษณะส่วนบุคคลอื่นๆ
5. เมื่อนักเรียนท�ำกิจกรรมระดมควำมคิดเสร็จแล้ว ครูแจกกระดำษที่เขียนสถำนกำรณ์ โดยมิชอบ
ั
ต่ำงๆ น้นให้นักเรียนคนละหนึ่งสถำนกำรณ์ (แต่ถ้ำนักเรียนในช้นมีจ�ำนวนมำก • รูปแบบกำรปฏิบัติด้วยวิธีเชิงลบนี้เรียกว่ำกำรเลือกปฏิบัติ • ระบุกลุ่มคนและ
ั
ื
ี
แจกคู่ละหนึ่งสถำนกำรณ์ก็ได้) • กำรเลือกปฏิบัติก่อให้เกิดอันตรำยได้ เน่องจำกขัดขวำงผู้คนไม่ให้ได้รับโอกำสท่เท่ำ กลุ่มย่อยที่มี
เทียมกัน หรือไม่ให้ได้ใช้ชีวิตที่ปลอดภัย แนวโน้มเผชิญ
ึ
ื
ึ
6. ครูลำกเส้นบนพ้นหน้ำห้องหน่งเส้น สมมติให้ปลำยด้ำนหน่งเป็นระดับกำรเลือกปฏิบัต ิ • กำรเลือกปฏิบัติรูปแบบหน่ง ได้แก่ กำรเลือกปฏิบัติบนฐำนเพศภำวะ ซ่งเกิดข้น กำรเลือกปฏิบัติ
ึ
ึ
ึ
สูงสุด ส่วนปลำยอีกด้ำนหนึ่งเป็นระดับกำรเลือกปฏิบัติต�่ำสุด เม่อคนบำงคนหรือบำงกลุ่มท่มีพลังอ�ำนำจมำกกว่ำผู้อ่นใช้พลังอ�ำนำจในเชิงลบ รวม สูงกว่ำผู้อื่น
ี
ื
ื
7. ครูช้แจงให้นักเรียนฟังว่ำ จะให้นักเรียนผลัดกันน�ำกระดำษสถำนกำรณ์ไปวำงบนเส้น ทั้งมีส่วนร่วมหรือปล่อยให้เกิดกำรปฏิบัติในเชิงลบต่อกลุ่มคนอีกบำงจ�ำพวก ค�าส�าคัญ
ี
ี
ื
ระดับกำรเลือกปฏิบัติ โดยให้นักเรียนเล่ำให้เพ่อนๆ ฟังว่ำ ใครคือคนหรือกลุ่มคนท่ถูก กำรเลือกปฏิบัติควำม
ี
ั
ั
เลือกปฏิบัติในสถำนกำรณ์น้น พร้อมท้งให้เหตุผลว่ำท�ำไมจึงวำงสถำนกำรณ์ไว้ท่ระดับ จุดเน้นส�าหรับครูผู้สอน: ทุพพลภำพ
็
ั
ุ้
ี
ั
ั
กำรเลือกปฏิบัติระดับน้นๆ เม่อถึงตำใคร คนน้นจะมีสิทธิย้ำยกระดำษสถำนกำรณ์ของ ส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกทักษะกำรเหนต่ำงในทำงท่น่ำพอใจท้งสองฝ่ำย กระตนให้นกเรียน
ื
ั
ี
ั
ื
ื
ื
คนอ่นไปวำงท่ระดับอ่น แต่ต้องสำมำรถให้เหตุผลได้ว่ำท�ำไมจึงสมควรย้ำยไประดับอ่น ได้แสดงควำมคิดเห็นของตนเองอย่ำงชัดเจน รวมท้งสรุปประเด็นท่เห็นต้องกันหรือเห็น
ี
ั
ื
ี
ต่ำงกันกับผู้อ่น อธิบำยให้นักเรียนได้เข้ำใจว่ำ บนเวทีอภิปรำยท่เคำรพให้เกียรติกันน้น ผ ู้
�
8. ครูควรย้ำให้นักเรียนเข้ำใจว่ำในกิจกรรมน้ไม่มี ‘ค�ำตอบท่ถูกต้องท่สุด’ เพรำะส่งท ี ่ เข้ำร่วมประชุมมักจะทัดทำนหักล้ำงควำมคิดของกันและกัน โดยไม่ดูหม่นดูแคลนบุคคล
ี
ี
ิ
ี
ิ
นักเรียนท�ำก็คือ กำรคิดพิจำรณำใคร่ครวญว่ำกำรเลือกปฏิบัติรูปแบบต่ำงๆ มีผลกระทบ ท่มีควำมคิดต่ำงจำกตนแต่อย่ำงใด
ี
ต่อใครและกระทบอย่ำงไร
คู่มือการจัดหลักสูตรแบบหน่วยการเรียนรู้ 67