Page 23 - BookHISTORYFULL.indb
P. 23

รัฐมนตรีช่วยว่ำกำรกระทรวงศึกษำธิกำรในขณะนั้น (นายวรากรณ์ สามโกเศศ) ในฐานะ

                               �
                                          �
                                                        �
                     ผู้มีบทบาทสาคัญในการกาหนดนโยบาย กากับดูแลการจัดการศึกษาของกระทรวง
                     ศึกษาธิการ ก็ได้รับรู้ข้อมูลเก่ยวกับผลการเรียนรู้ท่เป็นปัญหาดังกล่าว ท้งจากการรับฟัง
                                                                             ั
                                            ี
                                                            ี
                             ี
                           ี
                     จากผู้ท่เก่ยวข้องและการตรวจเย่ยมสถานศึกษาด้วยตนเองอย่างต่อเน่อง ก็เห็นพ้อง
                                               ี
                                                                             ื
                     กับข้อมูลจากส่วนอื่นๆ ดังปรากฏในค�าให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า
                            “จากการที่ พล.อ. พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีได้แสดงความห่วงใยเกี่ยวกับ
                     การท่นักเรียน เรียนวิชาประวัติศาสตร์น้อยลง แม้แต่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็ยัง
                         ี
                                                                                    �
                                                                                    ้
                                      ี
                     ไม่รู้จัก มารู้จักตอนท่สร้างเป็นภาพยนตร์แล้ว รวมท้งพันท้ายนรสิงห์ ก็รู้จักเป็นนาพริก
                                                              ั
                           ึ
                      ี
                     ย่ห้อหน่งเท่าน้น นอกจากน้ยังได้รับจดหมายสอบถามจากผู้ปกครองว่าปัจจุบันโรงเรียน
                                ั
                                          ี
                                                             ี
                                                    ี
                     ไม่มีการสอนวิชาประวัติศาสตร์ หน้าท่พลเมืองท่ดีและศีลธรรมแล้วหรือ เพราะเด็ก
                     ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้จักบุคคลสาคัญทางประวัติศาสตร์และไม่รู้จักการเป็นพลเมืองท่ดี รวมถึง
                                                                                 ี
                                         �
                                                          �
                                              ึ
                     ยังขาด คุณธรรม ศีลธรรม ซ่งตนเองก็เกิดคาถามเช่นกัน...” (สานักงานเลขาธิการ
                                                                          �
                     สภาการศึกษา, ๒๕๕๑ หน้า ๓)

                                                     ่
                                                               ิ
                                                            ั
                                                                        ิ
                                                                                        ิ
                                                    ่
                                                     ี
                                                    ี
                                                                    ุ
                                                                 ี
                                                                 ่
                                                                                 �
                                                               ่
                            ประวัติศำสตร์ เป็นศาสตร์ทเกยวข้องกบสงทมนษย์คดและกระทา ตามมต  ิ
                     ของเวลา  ประวัติศาสตร์จึงเป็นศาสตร์ท่ศึกษาประสบการณ์ของมนุษย์ได้ดีกว่าศาสตร์
                                                     ี
                                                                      ี
                                                                        ื
                                                                 �
                                             �
                     แขนงอ่น ท้งยังเป็นวิชาพ้นฐานสาคัญของการเรียนรู้ โดยทาหน้าท่เช่อมศาสตร์ท้งสามสาขา
                                        ื
                                                                                 ั
                             ั
                          ื
                     คือ มนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า พื้นฐาน
                     ความรู้และความเข้าใจทางประวัติศาสตร์ จะเป็นรากฐานส�าคัญของการเข้าในปัญหาต่างๆ
                     ว่าเกิดข้นได้อย่างมีเหตุผล มาตรการในการแก้ไขปัญหาก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
                           ึ
                                                             �
                                 ิ
                     และเหมาะสมเพ่มมากข้น ในขณะเดียวกันการกระทาหรือการตัดสินใจใดๆ ท่มิได้ต้งอยู่
                                                                                 ี
                                       ึ
                                                                                      ั
                     บนพ้นฐานความรู้ทางประวัติศาสตร์แล้วมักจะผิดพลาดได้ง่าย วิชาประวัติศาสตร์จึงเป็น
                         ื
                     ศาสตร์ที่ส�าคัญยิ่งในการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
                                                          ี
                            ในด้ำนเน้อหำ การสอนประวัติศาสตร์ท่ดีจะเท่ากับเป็นการวางรากฐานให้นักเรียน
                                   ื
                                                                      ี
                                                                                 ั
                     มีความรู้ ความเข้าใจและความตระหนักถึงผลกระทบของอดีตท่มีต่อปัจจุบันท้งในระดับ
                     ชุมชนและระดับสังคมโลก
                            ในด้ำนกำรเสริมสร้ำงภูมิปัญญำและทักษะด้ำนมนุษยศำสตร์  การสอน
                                           ี
                                     ั
                     ประวัติศาสตร์ตามข้นตอนท่ถูกต้อง จะเป็นการพัฒนาทักษะกระบวนการคิด จัดระบบ
                                                                             ั
                                    ั
                                                                                 ั
                                                                                     ิ
                     ความคดไปพร้อมกบการใช้ภาษา ด้วยการจดระบบข้อเทจจรงให้สมพนธ์กบมตเวลา
                           ิ
                                                                                    ิ
                                                                           ั
                                                                      ิ
                                                         ั
                                                                   ็
                     สถานท บคคลสาคญและเหตการณ์ต่างๆ ในลกษณะทสามารถอธบายให้เข้าใจได้อย่าง
                                                         ั
                                                                ่
                                                                ี
                                                                         ิ
                                    ั
                           ี
                             ุ
                                  �
                                            ุ
                           ่
                     น่าสนใจ
                                                                                            21
   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28