Page 33 - นางสาวธนวรรณ ติรเมธา
P. 33
ุ
ิ
ู
ุ
ิ
ู
4. ปจจัยทางภมค้มกัน (Immunological factor) เปนผลมาจากภมค้มกันของตนเอง (Autoantibody)
็
ั
ั
ี
ี
ู
ิ
ิ
ื
ิ
ั
่
ท าปฏกิรยากับเซลล์ของตับอ่อนท าให้เบตาเซลล์ถกท าลาย นอกจากน้ยังมปจจัยเสรมอน ๆ (วิมลรตน์ จง
ิ
ิ
ั
เจรญ, 2543) ได้แก่ ความอ้วน การขาดสารอาหารบางชนด การรบประทานยาบางชนด การขาดการออก
ิ
ก าลังกาย
ิ
พยาธสภาพของเบาหวาน
ี
็
ิ
่
ึ
ี
ื
่
การเปนเบาหวานท าให้เกิดความผิดปกต โดยมการเปลยนแปลงเกิดข้นทหลอดเลอดทั่วร่างกาย
ี
ื
ู
ี
ื
ื
ี
เนองจากระดับน ้าตาลในเลอดสงท าให้มน ้าตาลไปเกาะทเม็ดเลอดแดง ส่งผลให้มการปลดปล่อยออกซเจน
ิ
่
ี
่
ื
ื
ื
ี
่
่
จากเม็ดเลอดแดงส่เน้อเยือลดลง เกิดการเปลยนแปลงของหลอดเลอดแดงตามมาทั้งหลอดเลอดขนาดใหญ่
ื
ู
ื
ั
ุ
ี
่
ื
และหลอดเลอดขนาดเล็ก โดยท าให้เยือบหลอดเลอดชั้นในได้รบอันตราย ต่อจากนั้นจะมการซ่อมแซม
ึ
ื
่
่
่
ี
ื
ุ
ั
ี
เกิดข้น คอมการรวมตัวของเกล็ดเลอดเพืออดรอยทได้รบอันตรายนั้น ท าให้หลอดเลอดเกิดการอดตัน โปง
ื
ุ
พองหรอสรางหลอดเลอดทไม่แข็งแรงข้นมาใหม่ (จนทนา สดแสงจันทร, 2548. หน้า 5 อ้างองจาก
ื
้
ิ
่
ี
ื
์
ิ
ึ
Lemone & Burke, 1996)
อาการของเบาหวาน
ิ
์
ี
ิ
่
ี
ี
ผู้ปวยเบาหวานจะมอาการส าคัญทพบดังน้ (จนทนา สดแสงจันทร, 2548.หน้า 5 อ้างองจาก
่
Lemone & Burke,1996)
ู
ึ
่
ั
1. ปสสาวะบ่อย (Polyuria) เนองจากไตมความสามารถดดกลับน ้าตาลไว้ได้ในระดับหนงแต่ใน
ื
ี
่
ผู้ปวยเบาหวาน พบว่าไตไม่สามารถดดน ้าตาลในเลอดทสงได้ ดังนั้นจงมน ้าตาลส่วนหนงออกมาใน
ู
่
่
ึ
ี
ึ
่
ี
ื
ู
่
ึ
ึ
ี
ี
ิ
ปสสาวะ ซงเมอมความเข้มข้นของปสสาวะสงจงมการดงน ้าตามมามากกว่าปกต ท าให้ผู้ปวยปสสาวะบ่อย
ั
ั
ั
่
ู
ื่
ึ
มากข้น
ึ
2. กระหายน ้ามาก (Polydipsia) พบว่าผู้ปวยจะมอาการกระหายน ้ามาก คอแห้ง เปนผลมาจากการ
็
่
ี
ู
ึ
ุ
ั
ี
ี
ุ
สญเสยน ้าออกมาทางปสสาวะ ร่างกายจงอยู่ในภาวะขาดน ้า มการกระต้นศนย์การควบคมน ้าของร่างกาย
ู
เกิดการกระหายน ้าตามมาได้
ิ
3. หวบ่อย และรบประทานจ (Polyphagia) เนองจากร่างกายไม่สามารถน าน ้าตาลไปใช้ได้ตามปกต
ุ
ื
่
ิ
ั
ี
ุ
ั
ท าให้ร่างกายขาดพลังงาน จงมการหวบ่อยและรบประทานจตามมา
ิ
ึ
ิ
ิ
4. น ้าหนักตัวลดลง (Weight loss) จากการทร่างกายขาดอนซลน ท าให้ไม่สามารถน าน ้าตาลไป
ู
่
ี
ั
ี
ิ
ใช้ได้ตามปกต ส่งผลให้ร่างกายขาดพลังงานร่วมกับการขาดน ้าจากปสสาวะบ่อย ร่างกายจงมการน า
ึ