Page 34 - นางสาวธนวรรณ ติรเมธา
P. 34

ี
                                                                  ้
                                                           ึ
                                            ื
                                                                            ี
                                ่
                                                                   ึ
                                                                  ู
                                ี
               โปรตนและไขมันทสะสมไว้ในเน้อเยือมาใช้แทน  จงท าให้รสกอ่อนเพลย  น ้าหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบ
                                               ่
               สาเหต  ุ
                     ิ
               การวินจฉัยโรคเบาหวาน
                           องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเกณฑ์ของการวินจฉัยเบาหวานในป พ.ศ.2541 (ภาวนา กีรตยุต
                                                                                                 ิ
                                                              ิ
                                                                             ี
                              ี
                                           ี
                                     ี
               วงศ์,2544) โดยมรายละเอยดดังน้
                          ี
                                                                       ื
                                                                                             ื
                           1.  มอาการแสดงของเบาหวาน  ร่วมกับค่าของน ้าตาลในเลอดเวลาใดก็ได้  มากกว่าหรอเท่ากับ 200
               mg/dl
                                                                                     ็
                                    ื
                           2.  มน ้าตาลในเลอดหลังงดอาหารและน ้าทางปาก  (Fasting  blood  sugar) เปนเวลา  8 ช.ม.  โดยมค่า
                                                                                                       ี
                          ี
                                     ื
                         ื
               น ้าตาลในเลอดมากกว่าหรอเท่ากับ  126 mg/dl
                                                                          ี
                           3.  การตรวจ Glucose tolerance test  มระดับน ้าตาลในชั่วโมงท 2 มากกว่าหรอเท่ากับ 200 mg/dl
                                                                                      ื
                                                                          ่
                                                      ี
               ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
                                                         ่
                           โรคเบาหวาน  ท าให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทก่อให้เกิดการตายได้สง และยังท าให้เกิดภาวะต่าง ๆ ท ่ ี
                                                         ี
                                                                           ู
               ส าคัญ คอ  (จนทนา  สดแสงจันทร, 2548. หน้า 6  อ้างองจาก Black& Matassarin-Jacob,1993 ; Lemone &
                                                              ิ
                           ิ
                      ื
                                            ์
               Burke,1996)
                           1. ภาวะแทรกซอนแบบเฉยบพลัน  ได้แก่
                                   ้
                                           ี
                                          ื
                               1.1 ภาวะน ้าตาลในเลอดต า  (Hypoglycemia) โดยจะพบว่าน ้าตาลในเลอดมักต ากว่า 60  mg/dl  มัก
                                                                                         ่
                                             ่
                                                                                   ื
                                        ิ
                                            ิ
                                                              ี
                                                ื
                                          ู
                                                              ่
                       ่
                                                                                         ่
                       ี
                                                                                     ่
                             ั
                                                                                         ี
                                                                  ั
                                                                             ิ
               พบในผู้ทก าลังรกษาโดยใช้อนซลนหรอยาเม็ดในขณะทได้รบยาตามปกต  แต่ในผู้ปวยทออกก าลังกายมาก
                        ื
                                                                                     ี
                      ิ
                                                 ื
                                                      ั
                                                                              ่
                                                               ิ
                                                                   ื
                                                                   ่
                                                                                                  ี
               ผิดปกตหรอรบประทานอาหารไม่ได้หรอได้รบยาบางชนด  ดมสรามาก  ผู้ปวยจะมอาการตัวเย็น  ชพจรเบา
                           ั
                                                                     ุ
                                                            ึ
                                                                                                   ี
                                                                                  ั
               เรว  อ่อนเพลย  เหงอออก  ใจสั่น  เปนลม  วิงเวียน  มนงง  ตาพร่ามัว  ถ้าไม่ได้รบน ้าตาลทดแทนจะมระดับ
                                              ็
                 ็
                          ี
                                ื
                                ่
                     ู
               ความรสกตัวลดลงและหมดสตในทสด
                                             ี่
                                               ุ
                      ึ
                                         ิ
                     ้
                                          ื
                                                                                     ื
                               1.2  ภาวะน ้าตาลในเลอดสง  (Hyperglycemia) โดยจะพบใน 2 ลักษณะ คอ
                                              ู
                                             ื
                                                                                        ่
                                       1.2.1 ภาวะกรดในเลอดสง (Diabetic  ketoacidosis : DKA) มักพบในผู้ปวยเบาหวานชนดพึง
                                                                                                     ิ
                                                                                                        ่
                                                 ู
                 ิ
                                                                                        ื
                                                                                     ิ
                     ิ
                                                                            ี
                                                                                 ี
                          ื
                   ู
                                                              ิ
                                                                                                   ิ
                                        ู
                                         ิ
                                                                                                       ิ
                                                    ี
                                                         ื
                                                                                                     ู
                                                                                                 ี
                                                                  ิ
                                  ี
                                  ่
               อนซลน  หรอในรายทมอนซลนน้อยมาก  มการด้อต่ออนซลน  ภาวะเครยด  มไข้  ตดเช้อ โดยจะมอนซลน
                                     ิ
                                                                 ู
                                   ี
               น้อยมาก  และมการหลั่งฮอรโมนกลคากอน คอรตซอล แคทโคลามน  ซงออกฤทธ์ต้านการท างานของ
                                                                                    ิ
                             ี
                                                                  ี
                                                                           ่
                                                                        ี
                                                        ์
                                              ู
                                       ์
                                                         ิ
                                                                            ึ
               อนซลนท าให้ร่างกายไม่สามารถใช้กลโคสเปนพลังงานได้ตามปกต ร่างกายจงมการสลายไขมันออกมาใช้
                     ิ
                                                                                  ี
                   ู
                                                     ็
                                                ู
                 ิ
                                                                        ิ
                                                                                ึ
                                                             ี
                                            ี
                                                    ึ
                                                                                 ู
                                                                                        ่
               เปนพลังงานทดแทน  จงเกิดสารคโตนมากข้น  ท าให้มภาวะเปนกรดในเลอดสงข้น  ผู้ปวยมอาการหายใจ
                                                                             ื
                 ็
                                                                                   ึ
                                   ึ
                                                                   ็
                                                                                            ี
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39