Page 45 - หลักสูตรประวัติศาสตร์ฯ จ.ร้อยเอ็ด
P. 45

22


                       ๕. มาตรฐานการเรียนรู้หรือตัวชี้วัดกับสื่อ แหล่งการเรียนรู้มีความสอดคล้องกัน

                       ๖. ชิ้นงานหรือภาระงานของผู้เรียนกับวิธีการประเมินและเกณฑ์การประเมินมีความสอดคล้องกัน
                       ๗. ชิ้นงานหรือภาระงานของผู้เรียนกับกิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้องกัน
                       ๘. ชิ้นงานหรือภาระงานของผู้เรียนกับสื่อ แหล่งการเรียนรู้มีความสอดคล้องกัน

                       ๙. กิจกรรมการเรียนรู้กับสื่อ แหล่งการเรียนรู้มีความสอดคล้องกัน
                       ๑๐. หน่วยการเรียนรู้สามารถนำไปจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้จริง

                       จากผลการพิจารณาหน่วยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ได้ขอค้นพบต่างๆ ตามที่คณะกรรมการ
                                                                           ้
               พัฒนาการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้ข้อเสนอแนะในการพิจารณาในการจัดทำหน่วยการเรียนรู้ ดังนี้

                       ๑) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ไม่สอดคล้องกบวิธีสอน และเนื้อหาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
                                                             ั
                       ๒) เวลาเรียน ที่ใช้จัดกิจกรรมน้อยเกินไปสำหรับเนื้อหาที่ใช้สอน

                       ๓) กิจกรรมการเรียนการสอนส่วนใหญ่ยังยึดการอ่านเอกสาร เช่น ใบความรู้ หนังสืออ่านเพิ่มเติมที่ครู
               ทำให้แล้วตอบคำถาม ซึ่งเน้นความรู้ ความจำ ความเข้าใจในเนื้อหา ควรมีขั้นตอนการสอนที่ใช้วิธีการทาง
               ประวัติศาสตร์ และมีรายละเอียดของแต่ละขั้นตอน

                       ๔) เอกสารที่ครูทำขาดการอ้างอิง ถ้ามีการอ้างอิงจะใช้เว็บไซต์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่
               คลาดเคลื่อนและยังไม่มการใช้เอกสารชั้นต้น (ทั้งที่เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา)
                                   ี
                       ๕) ข้อมูลที่ครูใช้สอน ใช้ตั้งคำถาม ในเอกสารประกอบการสอน พบข้อมูลที่ล้าสมัยมีขอมูลที่ผิดพลาด
                                                                                            ้
               และครูจะใช้ข้อมูลที่คว้าได้ทั้งหมด โดยไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง
                       ๖) ครูยังเน้นหน่วยการเรียนรู้ที่มีแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน ซึ่งเน้นความรู้ความจำข้อมูล ทำให้ขาด

               การเน้นทักษะกระบวนการ เช่น การคิดวิเคราะห์ การสรุป การตีความ และที่สำคัญไม่สามารถสร้างเจตคติ
               ค่านิยม

                       ๗) ครูยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโครงงาน เช่น ให้นักเรียนไปทัศนศกษา และแบ่งกลุ่มค้นคว้าก็
                                                                              ึ
               เรียกว่าโครงงาน การสำรวจภูมิปัญญาในท้องถิ่นแล้วกลับมาทำรายงาน ก็เรียกว่าโครงงานสำรวจท้องถิ่น

               อย่างไรก็ตามในช่วงระยะเวลาที่ผ่าน เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่เริ่มมีการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                                                                                                 ื่
                                                                        ์
               พุทธศักราช ๒๕๕๑ ครูผู้สอนประวัติศาสตร์ต่างทบทวนประสบการณการออกแบบการเรียนรู้เดิมเพอปรับ
               รูปแบบ และวิธีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ทั้งนี้หลักการออกแบบการเรียนรู้ยังคงเดิม จะต่างตรง
                                               ่
               รายละเอียดบางส่วนเท่านั้น หากในแงของคุณภาพการออกแบบการเรียนรู้ก็ยังอยู่ในเส้นทางพัฒนากันอย่าง
               ต่อเนื่อง ซึ่งครูผู้สอนจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมโนทัศน์สำคัญ (Key Concept) ที่อยู่ในตัวชี้วัดและสาระการ

               เรียนรู้ รวมทั้งกระบวนการจัดการเรียนรู้สำคัญของสาระประวัติศาสตร์


               ๒.๓ แนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์
                       สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด ศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างไร ไม่ให้น่า

               เบื่อ : การสอนประวัติศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ซึ่งเป็นเอกสารประกอบการบรรยาย
               ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญ รสจันทร์ (๒๕๖๖) มีรายละเอียดดังนี้

                       ๒.๓.๑ การสอนประวัติศาสตร์โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50