Page 79 - 2557 เล่ม 1
P. 79
๗๙
ผู้เสียหายที่ ๒ เบิกความว่า เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ผู้เสียหายที่ ๒
พาผู้เสียหายที่ ๑ มาที่ร้านฝากจําเลยให้ดูแลผู้เสียหายที่ ๑ เมื่อผู้เสียหายที่ ๒
กลับเข้ามาในร้านเวลาประมาณ ๒๓ นาฬิกา พาผู้เสียหายที่ ๑ ขึ้นรถยนต์กลับบ้าน
เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุวันที่สอง ผู้เสียหายที่ ๒
พาผู้เสียหายที่ ๑ ไปร้าน ผู้เสียหายที่ ๒ จะไปธุระจึงฝากผู้เสียหายที่ ๑ ให้จําเลยดูแล
ผู้เสียหายที่ ๒ กลับเข้าที่ร้านเวลาประมาณ ๒๓ นาฬิกา จนกระทั่งร้านปิด จําเลย
พาผู้เสียหายที่ ๑ มาหาผู้เสียหายที่ ๒ ผู้เสียหายที่ ๒ เห็นผู้เสียหายที่ ๑ ผมยุ่ง
และมีอาการอ่อนเพลียมาก ผู้เสียหายที่ ๒ พาผู้เสียหายที่ ๑ ขึ้นรถยนต์กลับบ้าน
ระหว่างทางผู้เสียหายที่ ๑ นอนหลับถึงบ้านผู้เสียหายที่ ๑ ไม่ยอมอาบน้ํา
ผู้เสียหายที่ ๒ ถอดเสื้อผู้เสียหายที่ ๑ ออกเหลือแต่กางเกงชั้นในเพื่ออาบน้ํา
ผู้เสียหายที่ ๑ มีอาการแสบ ก้มดูที่อวัยวะเพศใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นในดึงมือออก
ผู้เสียหายที่ ๒ เห็นมีน้ําติดอยู่ที่มือของผู้เสียหายที่ ๑ หยดลงพื้น ผู้เสียหายที่ ๒
ตรวจดูน่าจะเป็นคราบน้ําอสุจิ และที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายที่ ๑ มีรอยบวมแดง
ผู้เสียหายที่ ๒ ถามผู้เสียหายที่ ๑ ว่าใครเป็นคนทํา ผู้เสียหายที่ ๑ นิ่งไม่ยอมตอบ
ผู้เสียหายที่ ๒ พูดเกลี้ยกล่อม ในที่สุดผู้เสียหายที่ ๑ จึงบอกว่า ลุงจอห์นหมายถึง
จําเลยเป็นคนทํา ผู้เสียหายที่ ๒ ถามผู้เสียหายที่ ๑ ว่าลุงจอห์นเอาจู๋ใส่จิ๋มหนูใช่หรือไม่
ผู้เสียหายที่ ๑ พยักหน้า วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๓ ผู้เสียหายที่ ๒ พาผู้เสียหายที่ ๑
ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตํารวจ พันตํารวจเอกนายแพทย์พัฒนา แพทย์ผู้ตรวจ
ร่างกายผู้เสียหายที่ ๑ ตรวจแล้ว ลงความเห็นว่า มีการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด
ผู้เสียหายที่ ๒ พาผู้เสียหายที่ ๑ ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม
การกระทําความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ พันตํารวจเอกนายแพทย์พัฒนา ผู้ตรวจร่างกาย
ผู้เสียหายที่ ๑ เบิกความว่า ผลการตรวจร่างกายผู้เสียหายที่ ๑ พบว่ามีการสอดใส่
เข้าไปในช่องคลอดผู้เสียหายที่ ๑ แต่ไม่พบหลักฐานการหลั่งน้ําอสุจิในช่องคลอด
ตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์เห็นว่า คําเบิกความของ
ผู้เสียหายที่ ๑ ได้ความเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งเป็นการยากที่ผู้เสียหายที่ ๑ ซึ่งเป็น
เด็กเล็กจะแต่งเรื่องราวได้เอง ส่วนผู้เสียหายที่ ๒ ก็เป็นเพื่อนกับจําเลยและ
ไม่ปรากฏเหตุที่ผู้เสียหายที่ ๒ จะต้องกลั่นแกล้งจําเลย จึงไม่น่าเชื่อว่าจะเสี้ยมสอน