Page 30 - รายงานประจำปี 2562
P. 30
ั
ั
ั
ึ
ี
ู
่
่
ิ
ำ
โรงพยาบาลเป็นคดีแรกซ่งผู้รับเหมาก่อสร้างมีหน้าท ี ่ สาหรบ “สญญาจดให้มสงสาธารณปโภค” ซง
ึ
ั
เพียงรับจ้างสร้างถาวรวัตถุ คือ อาคาร เท่าน้น ไม่ได้ ถ้าเป็นความเห็นของ ดร.วรพจน์ คือ โดยสภาพเป็น
มาตรวจรักษาคนไข้ เพราะฉะน้นผู้รับเหมาก่อสร้าง บริการสาธารณะ เช่น สะพาน ถนน ตลาดสดเทศบาล
ั
ิ
ู
ู
ึ
่
ไม่ได้มาจัดทำาบริการสาธารณะ คณะกรรมการฯ ลงมต เป็นสาธารณปโภคซงเป็นสาธารณปโภคโดยสภาพ
๔ ต่อ ๓ วินิจฉัยช้ขาดว่าเป็นสัญญาทางปกครองโดย แต่บางอย่างไม่เป็นสาธารณะก็มี แต่เป็นเคร่องมือในการจัด
ื
ี
ี
วางหลักไว้ว่า อาคารโรงพยาบาลเป็นวัตถุท่จำาเป็นต่อการ บริการสาธารณะ เช่น อาคารที่ทำาการของรัฐ ดร.วรพจน์
บริการสาธารณะให้บรรลุผล เพราะโรงพยาบาลต้องมีตัว จัดไว้อย่างนี้ แต่ถ้าคณะกรรมการฯ จะจัดไว้ในประเภท
ึ
็
ี
ั
อาคาร ในคดีน้เลยวินิจฉัยไว้อย่างน้น ซ่งคณะกรรมการก ของสัญญาท่มีวัตถุประสงค์เพ่อให้การจัดทำาบริการ
ี
ื
ี
ี
วินิจฉัยตามแนวคำาวินิจฉัยน้ ไม่เคยเปล่ยนกลับไปกลับมา สาธารณะบรรลุผล ระบบส่งไฟฟ้า ระบบส่งประปาเป็น
ี
เช่น สัญญาจ้างก่อสร้างอาคารท่ทำาการของรัฐ สัญญาจ้าง ระบบสาธารณูปโภค พวกท่อประปา สายไฟฟ้าจึงเป็น
ื
ก่อสร้างอาคารศูนย์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และศูนย์ เคร่องมือในการทำาให้การจัดทำาบริการสาธารณะบรรลุผล
ื
เคร่องมือกลางระหว่างบริษัทเอกชนกับมหาวิทยาลัย (คำาวินิจฉัยที่ ๑๔/๒๕๔๕ และคำาวินิจฉัยที่ ๗๙/๒๕๕๘)
ี
ของรัฐ (คำาวินิจฉัยท่ ๑๘/๒๕๔๕) โดยวินิจฉัยไปถึงสัญญา ในส่วนของการสร้างหรือซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ท ่ ี
ื
ื
จ้างออกแบบ สัญญาควบคุมด้วย สัญญาว่าจ้างให้เป็น ไม่ได้เป็นเครองมอในการจัดทำาบริการสาธารณะ เช่น
่
ท่ปรึกษาออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอาคารเรียน โรงแรมของเทศบาล โรงแรมของ อบจ. แนวคำาวินิจฉัย
ี
และอาคารประกอบ (คำาวินิจฉัยที่ ๔๗/๒๕๔๗) รวมไป ของฝรั่งเศสเคยวินิจฉัยว่าการสร้างโรงละคร ไม่ใช่หน้าที่
ถึงสัญญาจ้างซ่อมแซมอาคารก็เป็นสัญญาทางปกครอง ของเทศบาล แต่ตอนหลังมีการวินิจฉัยว่าเทศบาลมีหน้าท ่ ี
ท้งหมด (คำาวินิจฉัยท่ ๓๙/๒๕๕๘) สัญญาจ้างเหมา ทาให้ประชาชนมความสข ในส่วนของไทยตอนน ้ ี
ั
ี
ำ
ี
ุ
ี
ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารท่ทำาการ อาคารท่พักอาศัย และ ยังไม่เปล่ยน การท่หน่วยงานทางปกครองทำาสัญญา
ี
ี
ี
ี
ส่งก่อสร้างประกอบ โดยสรุปหลักท่คณะกรรมการฯ ใช้เป็น จ้างปรับปรุงโรงแรมเทศบาลซ่งมีวัตถุประสงค์เพ่อการ
ิ
ื
ึ
เกณฑ์การวินิจฉัยคือ “วัตถุของสัญญา” ต้องเป็น ดำาเนินการเชิงพาณิชย์จึงไม่ใช่สัญญาทางปกครอง
สาระสำาคัญในการจัดทำาบริการสาธารณะ และต้องดูว่า (คำาวินิจฉัยที่ ๑/๒๕๕๕)
บริการสาธารณะท่หน่วยงานน้นทำาคืออะไร อย่างไรก็ตาม “สัญญำแสวงประโยชน์จำกทรัพยำกร
ี
ั
็
ี
ั
ั
่
สญญาจ้างก่อสร้างอาคารทพกบางประเภทกไม่เป็น ธรรมชำติ” มี ๒ อย่างเข้ามาเก่ยวข้อง คือสัญญาท่ให้
ี
ี
สัญญาทางปกครอง เช่น สัญญาจ้างก่อสร้างอาคารที่พัก สัมปทานกับประทานบัตร ตัวประทานบัตรเป็นคำาส่ง
ั
นายทหาร เนื่องจากเป็นเพียงที่พักอาศัยของข้าราชการ
อันมิได้เป็นไปเพ่อการจัดทำาบริการสาธารณะโดยตรง ทางปกครอง แต่ตัวสัญญาสัมปทานจะเป็นการอนุญาต
ื
ให้เอกชนเข้ามาหาประโยชน์โดยต้องชำาระเงินให้
ั
เพราะฉะน้น สัญญาจ้างก่อสร้างท่พักนายทหารจึงไม่ใช่ กับฝ่ายรัฐ เพราะฉะน้น สัญญาแสวงประโยชน์จาก
ี
ั
ี
สัญญาทางปกครอง (คำาวินจฉัยท่ ๕๒/๒๕๖๐และท ่ ี
ิ
๑๑/๒๕๖๒) สรุปได้ว่าสัญญาก่อสร้างอาคารมิได้เป็น ทรัพยากรธรรมชาติ มี ๒ องค์ประกอบด้วยกัน
สัญญาทางปกครองท้งหมด ก็ต้องดูว่าอยู่ในหน้าท่ใน เป็นสัญญาทางปกครอง ส่วนการออกประทานบัตร
ั
ี
ึ
ั
การจัดทำาบริการสาธารณะของหน่วยงานน้นหรือไม่ การออกประทานบัตร คือการอนุญาตอย่างหน่ง ตัวสัญญา
ี
เช่น มหาวิทยาลัยมีหน้าที่จัดการเรียนการสอน นักเรียน เป็นสัญญาทางปกครอง ส่วนท่เป็นประทานบัตร
ี
ั
มาเรียนก็ต้องมีตึก การสร้างตึกของมหาวิทยาลัยก็เป็น เป็นคำาส่งทางปกครอง จะมีอย่างเดียวท่เป็นสัมปทาน
สัญญาทางปกครอง แต่คณะกรรมการฯ วินิจฉัยว่าต้องไปศาลภาษีอากร คือ
ข้อพิพาทท่เกิดจากการท่โจทก์เปิดประมูลเงินอากรเก็บ
ี
ี
รังนกอีแอ่นตามมาตรา ๑๔ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัต ิ
กิจกรรมของสำ�นักง�นเลข�นุก�ร
24 คณะกรรมก�รวินิจฉัยชี้ข�ดอำ�น�จหน้�ที่ระหว�งศ�ล
่