Page 37 - รายงานประจำปี 2562
P. 37

คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล



                                                                                                ๕
                                       ึ
               ตกลงให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหน่งเข้าดำาเนินการหรือเข้า ข้าราชการไม่เป็นสัญญาทางปกครอง  ซ่งแยกยาก
                                                                                                    ึ
               ร่วมดำาเนินการบริการสาธารณะโดยตรง...” ดูแล้วจะ โรงพยาบาลเป็นสัญญาทางปกครอง  หอพักแพทย์
                                                          ี
               คล้าย ๆ กัน และเป็นการขยายความคำาว่าสัญญาท่ให้ พยาบาลไม่เป็นสัญญาทางปกครอง ก็เลยตีความอนุโลม
                                                                                            ึ
                                                                                       ั
               จัดทำาบริการสาธารณะ เพราะบริการสาธารณะบาง ว่าเป็นสัญญาทางปกครองท้งคู่ ซ่งคณะกรรมการเคย
               กรณีทำาก็ได้ ไม่ทำาก็ได้ บางกรณีต้องทำาเสมอ บางกรณ ตีความรวมกันไป อันน้ค่อนข้างเห็นด้วยว่าน่าจะรวม
                                                                                   ี
                                                             ี
                                                             ี
                                                                         ิ
                                                                                                    ี
               ต้องได้รับอนุญาตและตามด้วยการทำาสัญญา บางกรณ กันไปคือ ส่งสาธารณูปโภค คือ ทุกอย่างท่ประชาชน
                ็
                                                                                                   ื
                           ั
                                          ั
                                                ิ
                                  ่
                                  ื
               กเป็นการทำาสญญาเพอให้เข้าจดทำาบรการสาธารณะ  เข้าไปใช้สอยหรือใช้ประโยชน์ เดิมมีปัญหาเร่องการสร้าง
                                                             ี
                                                             ่
                                                         ื
                                                                ี
                                                                                                      ั
               เช่น การอนุญาตให้เอกชนทำาบริการโทรศัพท์เคล่อนท  ท่ทำาการสำานักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยช้นล่างให้
                                                                                 ั
                                                                                           ี
                                                      ี
               การอนุญาตให้เอกชนทำาบริการเดินรถ เหล่าน้เรียกว่า  ประชาชนมาติดต่อ แต่ช้นบนก็เป็นท่ทำางานของผู้อำานวยการ
                       ี
               “สัญญาท่ให้เอกชนจัดทำาบริการสาธารณะ” บางกรณ  จึงแยกฟ้องไม่ได้ คณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดฯ จึงตีความ
                                                             ี
                                                                                                ี
               ก็เป็นหน้าที่ที่หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ต้องทำาเสมอ เช่น  ให้ไปฟ้องศาลปกครองทั้งหมด
               กรุงเทพมหานครมีหน้าที่เก็บขยะ แต่ทำาไม่ไหวก็มอบให้     “สัญญาแสวงประโยชน์จากทรัพยากร
               เอกชนจ้างบริษัทเอกชนทำาแทน จึงเรียกว่าให้ “คู่สัญญา  ธรรมชาติ” สัญญาพวกน้มักจะเขียนช่อเป็นสัมปทาน
                                                                                     ี
                                                                                                ื
               อีกฝ่ายหน่งเข้าดำาเนินการบริการสาธารณะโดยตรง” โดย  เป็นส่วนใหญ่ ถ้าไม่ได้เขียนเป็นสัญญาสัมปทานก็ถือ
                        ึ
               เอกชนเข้าทำาบริการสาธารณะคนเดียวเลย แต่หากจ้าง  เป็นสัญญาแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาต       ิ
               บริษัทเอกชนหลายบริษัท เรียกว่า ให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหน่ง   ยกเว้นเฉพาะเร่องนกอีแอ่นท่คณะกรรมการวินิจฉัย
                                                            ึ
                                                                                         ี
                                                                             ื
               “เข้าร่วม” ดำาเนินการบริการสาธารณะต่อเน่องกันได้ เช่น   ช้ขาดฯ มีคำาวินิจฉัยท่ ๓๕/๒๕๔๘ ว่า เข้าข้อยกเว้น
                                                   ื
                                                                ี
                                                                                  ี
                                                      ี
                               ี
               บริษัท ก. มีหน้าท่เก็บขยะ บริษัท ข. มีหน้าท่ขนขยะ  เร่องคดีภาษี จึงอยู่ในอำานาจพิจารณาพิพากษาของ
                                                                 ื
                                                       ี
                          ี
               ไปยังสถานท่เผาหรือฝังกลบ บริษัท ค. มีหน้าท่ทำาการ   ศาลยตธรรม (ศาลภาษ) เพราะเป็นคดเกยวกบอากร
                                                                                                 ี
                                                                                                   ี
                                                                                                      ั
                                                                                   ี
                                                                     ิ
                                                                                                   ่
                                                                    ุ
               ฝังกลบหรือเผาทำาลาย ท้ง ๓ กรณี คือ สัญญาทางปกครอง     ตามมาตรา ๙ วรรคสอง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง
                                   ั
               เพราะว่าเข้าร่วมกัน ทำากิจกรรมเดียวกันและต่อเนื่องกัน     ศาลปกครองฯ ซ่งสัญญาสัมปทานหรือสัญญาแสวงประโยชน์
                                                                            ึ
               และถือเป็นการเข้าร่วมดำาเนินการบริการสาธารณะ    จากทรัพยากรธรรมชาติเป็นส่งท่คล้าย ๆ กัน และจะม ี
                                                                                       ิ
                                                                                          ี
                                                ำ
                                                ้
                                                  ั
               “โดยตรง” ไม่ใช่โดยอ้อม เช่น การส่งนามน ส่งอาหาร
               ให้แก่บริษัท ก บริษัท ข หรือบริษัท ค            ๕   ค�ำวินิจฉัยช้ขำดอ�ำนำจหนำท่ระหวำงศำลท่ ๕๒/๒๕๖๐ คดี
                                                                          ี
                                                                                                 ี
                                                                                     ้
                                                                                       ี
                                                                                           ่
                                                                                                  ำ
                                                                ี
                                    ิ
                      “สัญญาจัดให้มีส่งสาธารณูปโภค” จะค่อนข้าง  ท่เอกชนฟ้องกองบัญชาการกองทัพไทยกับพวก ให้ชาระค่าจ้างและ
               กว้างกว่าประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ คือ ไม่ใช่สิ่งที่  ค่าสินไหมทดแทนกรณีผิดสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารพักอาศัย
                                                               นายทหารสัญญาบัตร ๑๖ ครอบครัว จำานวน ๔ หลัง ตามโครงการ
                                         ้
               อุปโภคหรือบริโภคเท่าน้น เช่น นาประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์  ก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย พ้นท่ศูนย ์
                                         ำ
                                   ั
                                                                                                         ี
                                                                                                       ื
                            ี
                         ิ
               แต่คือเป็นส่งท่ประชาชนสามารถอุปโภคบริโภคหรือ    รักษาความปลอดภัย กรุงเทพมหานคร แม้กองบัญชาการกองทัพไทย ิ
                                                               มีฐานะเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัต
                            ั
                                                             ี
                                                             ่
               ใช้สอยได้ คือท้งใช้สอยและบริโภค เช่น อาคารสถานท จัดต้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่สัญญา
                                                                  ั
                                                                                ู
               ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน คูคลองต่าง ๆ ต่อมาภายหลัง   พิพาท เป็นสัญญาว่าจ้างผ้ฟ้องคดีให้ก่อสร้างอาคารพักอาศัยนายทหาร
                                                                                         ้
                                                                                                       ็
                                                                                                           ื
                                                                                                           ่
                                                                                                 ั
                                                                                                    ิ
                                                                                                     ้
                                                                                ี
                                                                             ็
                                                                                 ั
                                                                                ่
                                                                         ื
                                                                         ่
                                                                ั
                                                                            ้
                                                                     ั
                                                                                     ั
                                   ี
               คณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดฯ ได้ตีความขยายออกไป     สญญาบตร เพอใชเปนทพกอาศยของขาราชการ อนมไดเปนไปเพอ
                                                                                                    ื
                                                                     ำ
                                                                                             ื
                                                               การจัดทาบริการสาธารณะโดยตรงหรือเพ่อเป็นเคร่องมือในการ
               พอควร เช่น เดิมวินิจฉัยว่าสัญญาสร้างโรงพยาบาล จัดทาบริการสาธารณะ จึงไม่ใช่สัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่ง
                                                                  ำ
                                ๔
               เป็นสัญญาปกครอง  แต่สัญญาจ้างก่อสร้างบ้านพัก    พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง พ.ศ.
                                                                                         ี
                                                               ๒๕๔๒ แต่เป็นเพียงสัญญาทางแพ่ง ท่มีหน่วยงานทางปกครองเป็น
                                                               ค่สัญญาเท่าน้น คดีน้จึงมิใช่คดีพิพาทเก่ยวกับสัญญาทางปกครอง
                                                                ู
                                                                                           ี
                                                                              ี
                                                                         ั
                                                               ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง
                                                               และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เป็นคดีพิพาทเก่ยวกับ
                                                                                                         ี
               ๔
                  ค�ำสั่งศำลปกครองสูงสุดที่ ๑๕๗/๒๕๕๐           สัญญาทางแพ่งที่อยู่ในอำานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
                                                                             กิจกรรมของสำ�นักง�นเลข�นุก�ร
                                                            คณะกรรมก�รวินิจฉัยชี้ข�ดอำ�น�จหน้�ที่ระหว�งศ�ล    31
                                                                                                     ่
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42