Page 1220 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1220

๑๒๐๘


                                                      ิ
                 ซึ่งถือได้ว่าเป็นกรณีข้อยกเว้นของหลักการพจารณาด้วยวาจาที่ใช้ในการสืบพยานบุคคล   และพบว่าใน
                                                                                          ๑๘
                 ปัจจุบันมีการน ามาใช้ในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ  รวมทั้งบัญญัติอยู่ในประมวล
                 กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๒๐/๑



                        การเสนอบันทึกถ้อยค าแทนการซักถามพยาน

                        ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๒๐/๑  บัญญัติว่า “เมื่อคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมี
                 ค าร้องและคู่ความอกฝ่ายไม่คัดค้าน  และศาลเห็นสมควรศาลอาจอนุญาตให้คู่ความฝ่ายที่มีค าร้องเสนอ
                                  ี
                 บันทึกถ้อยค าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนของผู้ที่ตนประสงค์จะอางเป็นพยานยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็น
                                                                   ้
                 ของผู้ให้ถ้อยค าต่อศาลแทนการซักถามผู้ให้ถ้อยค าเป็นพยานต่อหน้าศาลได้

                        คู่ความที่ประสงค์จะเสนอบันทึกถ้อยค าแทนการซักถามพยานตามวรรคหนึ่งจะต้องยื่นค าร้อง
                 แสดงความจ านงพร้อมเหตุผลต่อศาลก่อนวันชี้สองสถาน  หรือก่อนวันสืบพยานในกรณีที่ไม่มี

                 การชี้สองสถาน  และให้ศาลก าหนดระยะเวลาที่คู่ความจะต้องยื่นบันทึกถ้อยค าดังกล่าวต่อศาลและส่ง
                 ส าเนาบันทึกถ้อยค านั้นให้คู่ความอกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันสืบพยานคนนั้น เมื่อ
                                              ี
                 มีการยื่นบันทึกถ้อยค าต่อศาลแล้ว  คู่ความที่ยื่นไม่อาจขอถอนบันทึกถ้อยค านั้น บันทึกถ้อยค านั้นเมื่อ

                 พยานเบิกความรับรองแล้วให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของค าเบิกความตอบค าซักถาม


                                            ื่
                                                                    ิ่
                        ให้ผู้ให้ถ้อยค ามาศาลเพอเบิกความตอบค าซักถามเพมเติม  ตอบค าถามค้านและค าถามติงของ
                 คู่ความ หากผู้ให้ถ้อยค าไม่มาศาล ให้ศาลปฏิเสธที่จะรับฟงบันทึกถ้อยค าของผู้นั้นเป็นพยานหลักฐานในคดี
                                                                ั
                 แต่ถ้าศาลเห็นว่าเป็นกรณีจ าเป็นหรือมีเหตุสุดวิสัยที่ผู้ให้ถ้อยค าไม่สามารถมาศาลได้ และเพื่อประโยชน์แห่ง

                 ความยุติธรรมจะรับฟังบันทึกถ้อยค าที่ผู้ให้ถ้อยค ามิได้มาศาลนั้นประกอบพยานหลักฐานอื่นกได้
                                                                                            ็

                                                                        ู่
                                                                              ี
                        ในกรณีที่คู่ความตกลงกันให้ผู้ให้ถ้อยค าไม่ต้องมาศาลหรือคความอกฝ่ายหนึ่งยินยอมหรือไม่ติดใจ
                 ถามค้าน  ให้ศาลรับฟังบันทึกถ้อยค าดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานในคดีได้”

                                                                                  ิ
                                                                                                ่
                        บทบัญญัติดังกล่าวบัญญัติอยู่ในลักษณะ ๕ ของประมลวกฎหมายวิธีพจารณาความแพง  ซึ่งเป็น
                 บทบัญญัติเรื่องพยานหลักฐาน  กฎหมายลักษณะพยาน กฎหมายลักษณะพยานเป็นกฎหมายที่เก่าแก่มาก

                                                                        ิ
                 ที่สุดกฎหมายหนึ่งถือก าเนิดมาพร้อมกับการจัดระบบศาลและวิธีพจารณาความ  กฎหมายลักษณะพยาน
                                                                       ั
                                                                                              ื่
                 เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการน าเสนอข้อพสูจน์อนเป็นข้อเท็จจริงต่อศาลเพอให้ศาลได้
                                                                  ิ
                 วินิจฉัยคดีความได้ถูกต้อง  วัตถุประสงค์ส าคัญของกฎหมายลักษณะพยานในทุกระบบ คือ ต้องการให้มี
                 การพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ยุติในศาล   ระบบกฎหมายลักษณะพยาน คือระบบการค้นหาข้อเท็จจริงโดย
                                                ๑๙
                 ให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัย  จ าแนกได้เป็นระบบใหญ่ ๆ สองระบบ คือ



                        ๑๘  “เรื่องเดียวกัน, หน้า  ๕๑.”
                        ๑๙  พรเพชร  วิชิตชลชัย,  ค าอธิบายกฎหมายลักษณะพยาน,  พิมพ์ครั้งที่ ๑, หน้า ๒.
   1215   1216   1217   1218   1219   1220   1221   1222   1223   1224   1225