Page 259 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 259
๒๔๖
ั
ั
สอดคล้องกบอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กอนเป็นกฎหมายระหว่างประเทศและประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคี
สมาชิกแล้ว พนธะหน้าที่ของประเทศสมาชิกจะต้องมีการอนุวัติกฎหมายภายในของตนให้มีความ
ั
สอดคล้อง โดยอนุสัญญาดังกล่าวได้วางหลักประกันการด าเนินกระบวนยุติธรรมเกี่ยวกับเด็กว่า การ
ี
จับกุม กักขังหรือจ าคุกเด็กจะต้องใช้เป็นมาตราสุดท้ายเท่านั้นและให้มระยะเวลาที่สิ้นสุดอย่าง
เหมาะสม และเด็กจะต้องได้รับการปฏิบัติในลักษณะที่เป็นการส่งเสริมการกลับคืนสู่สังคมและส่งเสริม
ให้มีการตรากฎหมายก าหนดกระบวนพจารณาจัดตั้งหน่วยงานซึ่งใช้เฉพาะกับเด็กที่ถูกกล่าวหาและใน
ิ
๑๓
กรณีที่เหมาะสมให้ “ก าหนดมาตรการที่ใช้กับเด็กโดยไมต้องอาศัยกระบวนการทางตุลาการ”
่
ประกอบกับตามทฤษฎีอาชญาวิทยา ที่เรียกว่า ทฤษฎีตีตรา(Lebel Theory) ที่ได้รับการเชื่อถืออย่าง
แพร่หลาย เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาทุกขั้นตอนที่ด าเนินการอย่างเป็นทางการมากเกินไป
ถือว่าเป็นกระบวนการตราบาป(Lebel Process) ให้แก่ผู้กระท าผิดว่าเป็นอาชญากร และเป็นสาเหตุ
หนึ่งที่ผลักดันให้เด็กและเยาวชนเปลี่ยนจากพวกเบี่ยงเบนปฐมภูมิ(Primary Deviance) กลายเป็นพวก
๑๔
เบี่ยงเบนถาวร(Secondary Deviance) ส่งผลให้ยากต่อการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นพลเมืองดีของสังคม
ดังนั้นกระบวนการยุติธรรมทางอาญาส าหรับเด็กและเยาวชนที่ดีและมีประสิทธิภาพ
๑๕
ื่
จะต้องมีระบบการกลั่นกรองคดีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพทุกขั้นตอน เพอผลักดันเด็กและ
เยาวชนที่กระท าผิดออกจากกระบวนการยุติธรรมทางอาญาอย่างเป็นทางการให้รวดเร็วและน า
ื่
ื่
มาตราการอนมาปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนให้เหมาะสมเพอประโยชน์สูงสุดของเด็กและเยาวชน(the
best interest of the children) โดยเฉพาะกระบวนการก่อนฟองคดีจะต้องมีประสิทธิภาพในการ
้
ื่
กลั่นกรองคดี(Screening Process) ในบทความฉบับนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึงมาตรการทางเลือกอนใน
๑๖
การปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนที่กระท าผิดโดยไม่ต้องกระบวนการทางศาล (Alternative Measure for
Juvenile Delinquency without Proceeding through the Formal Court) ซึ่งนานาอารยประเทศ
ทั่วโลกต่างมีมาตรการดังกล่าวมาปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะกล่าวให้เห็นถึงเหตุผล
แนวความคิด และสัมฤทธิ์ผลในทางปฏิบัติเพอน ามาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศไทย
ื่
ื่
ในปัจจุบันเพอหาแนวทางการน ามาปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมส าหรับเด็กของไทยและให้เกิดผลการ
บังคับใช้ในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ
๑๓ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก, ข้อ ๓๗,๔๐.
๑๔ George B.Vold,Theoretical Criminology(New York ;Oxford University Press,1979), p.263,
pp258-266
๑๕ ณรงค์ ใจหาญ ,หลักประกันสิทธของประชาชนในคดีอาญาใหม่: ปัจจุบันและทศวรรษหน้า) ๒๕๔๐-
ิ
๒๕๕๐),บทบัญฑิตย์ เล่มที่ ๕๓ ตอน ๒(มิถุนายน ๒๕๔๐):๘๕.
๑๖ กิตติพงษ์ กิตยารักษ, กระบวนการยุติธรรมบนเส้นทางของการเปลี่ยนแปลง, (กรุงเทพมหานคร:
์
ส านักพิมพ์วิญญูชนจ ากัด ,๒๕๔๑ , หน้า ๔๕