Page 795 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 795
๗๘๓
(๑) ต้องมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระท าอย่างใดเป็นความผิด
(๒) ต้องมีการกระท าที่กฎหมายบัญญัติไว้นั้น และ
(๓) การกระท านั้นต้องประกอบด้วยสภาพทางจิตใจ
นอกจากนี้ ในคดีอาญาสภาพบังคับทุกอย่างที่รัฐกระท าต่อประชาชนนั้นปรากฏออกมาใน
รูปแบบของโทษ โดยกฎหมายฝรั่งเศสจะไม่มีการจ าแนกว่ามาตรการใดเป็นโทษหรือมาตรการใดคือวิธีการ
เพื่อความปลอดภัย แต่ประเทศฝรั่งเศสจะจ าแนกโทษออกเป็น ๓ ลักษณะ ได้แก่
(๑) โทษอาญาหลัก (Les peines principales) โทษอาญาหลักเป็นโทษที่ก าหนดไว้ในแต่ละ
ฐานความผิดและศาลใช้โทษอาญาหลักนี้พพากษาลงโทษผู้กระท าความผิดในแต่ละกลุ่มของความผิดและ
ิ
โทษก็ล้วนแต่มีโทษอาญาหลักทั้งสิ้น เช่น โทษจ าคุกเป็นโทษอาญาหลักของกลุ่มความผิดอาญาโทษรุนแรง
(crime) โทษจ าคุกและโทษปรับตั้งแต่ ๓,๗๕๐ ยูโร เป็นโทษอาญาหลักในความผิดอาญาโทษชั้นกลาง
(délits) และโทษปรับเป็นโทษอาญาหลักของความผิดลหุโทษ (contravention)
(๒) โทษอาญาทางเลือก (Les peines alternatives) โทษอาญาทางเลือกถูกน ามาใช้เมื่อศาล
เห็นสมควรว่าจ าเลยไม่ควรได้รับโทษอาญาหลัก ศาลอาจน าโทษอาญาทางเลือกมาใช้แทนโทษอาญาหลักได้
เช่น ในความผิดโทษชั้นกลาง (délits) ที่ประมวลกฎหมายอาญาก าหนดโทษจ าคุกส าหรับผู้กระท าความผิด
ิ
หากศาลเห็นว่าจ าเลยไม่ควรได้รับโทษจ าคุก ศาลอาจพพากษาว่าจ าเลยมีความผิดและใช้โทษอาญา
ทางเลือก เช่น การบริการสาธารณะมาใช้แทนการจ าคุกก็ได้
(๓) โทษอาญาเสริม (Les peines complémentaires) โทษอาญาเสริมมีอยู่ในทุกกลุ่ม
ประเภทความผิด โทษอาญาเสริมประกอบไปด้วยการจ ากัดสิทธิของจ าเลยการก าหนดหน้าที่ให้จ าเลยการ
ริบทรัพย์สิน การปิดสถานที่การโฆษณาคาพพากษา เป็นต้น ซึ่งลักษณะของโทษอาญาเสริมเป็นการป้องกัน
ิ
ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
หากพจารณาลักษณะหรือระดับของโทษทั้งสามลักษณะดังกล่าวแล้ว จะพบว่าโทษอาญา
ิ
เสริม (Les peines complémentaires) มีลักษณะคล้ายวิธีการเพ่อความปลอดภัยในระบบกฎหมาย
ื
ไทยนั่นเอง
๒๑
สหพนธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ั
จากการศึกษาพบว่าสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มีโครงสร้างความรับผิดทางอาญา
(Dreistufiger Verbrechensaufbau คล้ายกับของประเทศไทยซึ่งได้รับอิทธิพลความคิดทาง
)
กฎหมายอาญาของเยอรมนี เพราะมีการแบ่งแยกให้เห็นชดถึงความชอบด้วยกฎหมาย (Justification)
ั
และเหตุยกเว้นโทษ (Excuse) ดังนี้
๒๑ ปกป้อง ศรีสนิท,กฎหมายอาญาชั้นสูง, พิมพ์ครั้งที่ ๒ (กรุงเทพมหานคร: วิญญูชน, ๒๕๖๑), หน้า
๒๑๕ – ๒๑๗.