Page 807 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 807
๗๙๕
ศาลฎีกากล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ชัดเจนอย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยในกรณีที่ศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับและให้
ิ
จ าเลยออกจากป่าที่เกิดเหตุ เมื่อจ าเลยไม่ปฏิบัติตามคาพพากษา กล่าวคือ ยังคงครอบครองป่าที่ศาลสั่งให้
ออกอยู่ โจทก์ขอให้บังคับคดี ศาลย่อมมีอานาจด าเนินกระบวนพจารณาชั้นบังคับคดีแก่จ าเลยได้ โดยไม่
ิ
ิ
่
จ าเป็นจะต้องให้โจทก์ฟองขับไล่จ าเลยในทางแพงขึ้นมาใหม่ เทียบเคียงค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๑๘๕ – ๑๙๕/
้
๒๕๑๑
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๘๕ – ๑๙๕/๒๕๑๑ คดีที่ศาลพิพากษาให้ลงโทษปรับและให้จ าเลย
ิ
ออกจากป่าที่แผ้วถาง เมื่อจ าเลยไม่ปฏิบัติตามค าพพากษา กล่าวคือ ยังคงครอบครองป่าที่ศาลสั่งให้ออก
อยู่ โจทก์จึงมีค าขอต่อศาลให้บังคับคดีศาลย่อมมีอานาจด าเนินกระบวนพจารณาชั้นบังคับคดีแก่จ าเลยได้
ิ
ิ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพง มาตรา ๒๙๗ (ปัจจุบันหลักการอยู่ในมาตรา ๓๖๑) ประกอบ
่
ิ
์
้
ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ โดยไม่จ าเป็นจะต้องให้โจทกฟองขับไล่จ าเลยในทาง
แพงขึ้นมาใหม่ จ าเลยจะอางว่าตนได้ครอบครองที่ป่ามาช้านานจนกลายเป็นที่นา ดังนี้ถือว่าเป็นการอาง
้
้
่
ั
ข้อเท็จจริงมาใหม่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ฟงเป็นยุติในทางพจารณา หากจะฟงข้อเท็จจริงที่จ าเลยอางมา
ิ
้
ั
ก็เท่ากับให้ด าเนินคดีกับจ าเลยใหม่ ซึ่งจะมีผลเป็นการแก้ไขค าพพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้วย่อมเป็นการขัดต่อ
ิ
ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๐ โดยห้ามมิให้แก้ไขค าพพากษาหรือค าสั่งซึ่งอาน
ิ
ิ
่
แล้วนอกจากถ้อยค าที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด
หมายเหตุ แม้ค าพพากษาศาลฎีกาคดีนี้จะมีข้อเท็จจริงไม่ตรงกับกรณีศึกษา แต่ก็ท าให้ทราบ
ิ
ุ
ว่าศาลฎีกาได้ขยายความตัวบทกฎหมาย รวมถึงย้ าถึงหลักการบทบัญญัติว่าด้วยโทษอปกรณ์เป็นสภาพข้อ
หาทางแพงซึ่งถูกน ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญา เมื่อเกิดกรณีจ าเลยไม่ปฏิบัติตามค าพพากษา ก็ไม่
่
ิ
่
ั
ื่
้
จ าต้องให้โจทก์ไปฟองเพอด าเนินการบังคับคดีแก่จ าเลยในทางแพงขึ้นใหม่ อนบ่งชี้ให้เห็นถึงเจตนารมณ์
ื่
ิ
ของกฎหมายในตัวว่าเพอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถบังคับคดีให้เป็นไปตามผลค าพพากษา
ด้วยความเรียบร้อยและรวดเร็วได้
๔.๑.๒ ในแง่ของความมุ่งหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ตามพระราชบัญญัติรักษาและส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๔
ื
ั
ให้นิยามค าว่า “คุณภาพสิ่งแวดล้อม” หมายความว่า ดุลยภาพของธรรมชาติ อนได้แก่ สัตว์ พช และ
ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ และสิ่งที่มนุษย์ได้ท าขึ้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อการด ารงชีพของประชาชน และ
ั
ความสมบูรณ์สืบไปของมนุษยชาติ” จากบทนิยามดังกล่าวจะเห็นได้ว่าความสัมพนธ์ระหว่างมนุษย์กับ
สิ่งแวดล้อมนั้น มนุษย์ถือเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมและไม่อาจแยกจากกันได้ และเมื่อมนุษย์มีความ
ผูกพันกับสิ่งแวดล้อมอย่างแนบแน่น มนุษย์จึงต้องภาระความรับผิดชอบต่อการด ารงไว้ซึ่งสภาพสิ่งแวดล้อม
ื่
ให้คงอยู่เพอความอยู่รอดของตัวมนุษย์เองอย่างสมดุลและยั่งยืน ศาลยุติธรรมได้ให้ความส าคัญของปัญหา
เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีความส าคัญต่อสาธารณชนและมีผลกระทบต่อประโยชน์และ
ความสงบเรียบร้อยในสังคม ประธานศาลฎีกามีข้อแนะน าเกี่ยวกับการด าเนินคดีสิ่งแวดล้อมเพอให้การ
ื่