Page 57 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 57
คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล เงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาอันเป็นการจัดทำ
ที่ ๓๗/๒๕๖๒ บริการสาธารณะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ นอกเหนือ
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและ จากนี้แล้ว การดำเนินการของโรงเรียนเอกชนย่อมเป็น
วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙ เรื่องของนิติบุคคลเอกชนที่อยู่ภายใต้ระบบกฎหมาย
วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณา เอกชนเช่นเดียวกับเอกชนทั่วไป เมื่อโจทก์ทั้งสิบอ้างว่า
พิพากษาหรือมีคำสั่งในเรื่องดังต่อไปนี้ (๔) คดีพิพาท จำเลยทั้งสามไม่ขึ้นเงินบำนาญในอัตราร้อยละ ๑๐
เกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง โดยมาตรา ๓ แห่ง ของเงินบำนาญที่ได้ในเดือนพฤษภาคมให้แก่
พระราชบัญญัติเดียวกัน ให้นิยามคำว่า “สัญญา โจทก์ทั้งสิบ และไม่จ่ายค่าชดเชยตามระเบียบกระทรวง
ทางปกครอง” หมายความรวมถึง สัญญาที่คู่สัญญา ศึกษาธิการ อันเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
อย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์ทั้งสิบกับจำเลยทั้งสาม
หรือเป็นบุคคลซึ่งกระทำการแทนรัฐและมีลักษณะ ในการจัดทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ทั้งสิบเป็นลูกจ้าง
เป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะ ในตำแหน่งครูเพื่อทำงานให้กับจำเลยที่ ๒ และที่ ๓
หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์ มิได้เกิดจากการใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนิน
จากทรัพยากรธรรมชาติ และนิยามคำว่า “หน่วยงาน กิจการทางปกครอง ตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐ
ทางปกครอง” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม การกระทำของจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ในการทำสัญญา
ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ดังกล่าว จึงไม่ทำให้ตนมีฐานะเป็นหน่วยงานที่ได้รับ
ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ มอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครองหรือดำเนินกิจการ
ที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา ทางปกครองอันจะถือว่าเป็นหน่วยงานทางปกครอง
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐและให้หมายความรวมถึง สัญญาจ้างครูผู้สอนในคดีนี้จึงไม่ครบองค์ประกอบ
หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครอง ของสัญญาทางปกครอง ตามบทนิยามมาตรา ๓
หรือให้ดำเนินกิจการทางปกครอง คดีนี้ โรงเรียน อ. แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา
แผนกประถม จำเลยที่ ๒ และโรงเรียน อ. จำเลยที่ ๓ คดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ข้อพิพาทในคดีนี้จึงมิใช่
เป็นโรงเรียนเอกชนในระบบที่จัดตั้งขึ้นตาม คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๙
พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๒๕ จึงมิใช่ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง
กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่อ และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่จะอยู่ใน
อย่างอื่น และมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค อำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง แต่เป็น
ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้น นิติสัมพันธ์ที่โจทก์ทั้งสิบตกลงจะทำงานให้จำเลยที่ ๒
โดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา หรือ และที่ ๓ และจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ตกลงจะให้สินจ้าง
หน่วยงานอื่นของรัฐ แต่จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ตลอดเวลาที่ทำงานให้ สัญญาพิพาทจึงมีลักษณะ
อาจเป็นหน่วยงานทางปกครองและอาจถูกฟ้อง เป็นสัญญาจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่ง
ต่อศาลปกครองได้ หากได้กระทำการใดโดยใช้อำนาจ และพาณิชย์ มาตรา ๕๗๕ และคู่สัญญาจึงอยู่ในฐานะ
ทางปกครองหรือดำเนินกิจการทางปกครอง ลูกจ้างนายจ้างตามบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อโจทก์ทั้งสิบ
ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งได้แก่การดำเนินการเกี่ยวกับ ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามจ่ายเงินเพิ่มโดยกล่าวอ้าง
การจัดการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็น ว่ามีสิทธิตามสัญญาและระเบียบ กรณีจึงเป็นข้อพิพาท
ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี ๒ ๕ ๖ ๔ 55
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล