Page 59 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 59
การทำงานของจำเลยที่ ๑ โดยมีค่าตอบแทน นิติสัมพันธ์ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหาย
ระหว่างโจทก์และจำเลยที่ ๑ จึงเป็นความสัมพันธ์ในฐานะ พร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองให้การว่า คำสั่งโยกย้าย
ลูกจ้างนายจ้าง อันเป็นความสัมพันธ์ตามกฎหมายแพ่ง โจทก์ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมแล้ว กระบวนการ
สัญญาจ้างทำงานระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นสัญญา ยื่นข้อเรียกร้องเสร็จสิ้นลงตามกฎหมายแล้ว เห็นว่า
จ้างแรงงาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โจทก์ทำสัญญาเป็นลูกจ้างขององค์การค้าของจำเลยที่ ๑
มาตรา ๕๗๕ และการที่จำเลยที่ ๑ ทำสัญญาจ้างโจทก์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการจัดตั้งเพื่อหาประโยชน์
ก็เป็นเพียงการดำเนินงานด้านทรัพยากรบุคคลซึ่งเป็น ให้แก่คุรุสภาและอำนวยความสะดวกให้แก่การศึกษา
ส่วนหนึ่งที่ทำให้จำเลยที่ ๑ ดำเนินธุรกิจในการให้บริการ โดยผลิต จำหน่าย และพัฒนาสื่อการศึกษาทุกประเภท
ด้านการศึกษาได้เท่านั้น เมื่อโจทก์อ้างว่าจำเลยที่ ๑ โดยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและสามารถบริหาร
เลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยทั้งสาม กิจการจนมีกำไร การดำเนินกิจการขององค์การค้า
ร่วมกันจ่ายค่าจ้างเดือนสุดท้ายสินจ้างแทนการบอกกล่าว ของจำเลยที่ ๑ มีลักษณะเดียวกับการดำเนินการ
ล่วงหน้า ค่าชดเชย ค่าเสียหายจากการเลิกจ้าง ของเอกชนซึ่งเป็นการประกอบกิจการเชิงพาณิชยกรรม
ไม่เป็นธรรม และค่าเสียหายจากการกระทำละเมิด และความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๑ มีลักษณะ
ของจำเลยทั้งสาม จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือ เป็นนายจ้างลูกจ้างตามสัญญาจ้างแรงงาน ประกอบ
หน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง กับโจทก์ขอให้เพิกถอนคำสั่งโยกย้ายอ้างว่าเป็น
ศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒ การกลั่นแกล้งโจทก์เพราะเหตุที่โจทก์เป็นกรรมการ
มาตรา ๘ (๑) อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษา สหภาพแรงงานและยื่นข้อเรียกร้อง อันเป็นเรื่องที่
ของศาลยุติธรรม โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งสองฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ
แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ส่วนจำเลยทั้งสอง
คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ให้การโต้แย้งว่ามีสิทธิโยกย้ายโจทก์เพราะไม่มี
ที่ ๗๙/๒๕๕๖ ข้อเรียกร้องอยู่ในระหว่างการเจรจา ไม่ต้องห้าม
คดีที่โจทก์เป็นเอกชนยื่นฟ้องสำนักงาน ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ข้อพิพาทระหว่างโจทก์
คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และจำเลยทั้งสองจึงเป็นข้อพิพาทที่เกี่ยวกับสิทธิ
และบุคลากรทางการศึกษา และผู้อำนวยการองค์การค้า หรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามข้อตกลง
ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ เกี่ยวกับสภาพการจ้างและเป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิหรือ
สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาว่า จำเลยที่ ๑ หน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานหรือ
โดยจำเลยที่ ๒ มีคำสั่งโยกย้ายโจทก์โดยไม่ชอบ กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ ตามพระราชบัญญัติ
ด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรม ขัดขวางการทำหน้าที่ จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒
ของโจทก์และขัดต่อกฎหมาย เพราะโจทก์อยู่ระหว่าง มาตรา ๘ คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนเจรจาข้อเรียกร้องฝ่ายลูกจ้าง ศาลยุติธรรม
และการเจรจายังไม่มีข้อยุติซึ่งเป็นการดำเนินการ
ของจำเลยที่ ๒ แต่เพียงผู้เดียว ขอให้เพิกถอนคำสั่ง
โยกย้ายโจทก์และให้โจทก์กลับเข้ารับตำแหน่งเดิม
ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี ๒ ๕ ๖ ๔ 57
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล