Page 64 - รายงานประจำปี 2564 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
P. 64
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา จึงเป็นการฟ้องเรียกร้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีผิดสัญญา
คดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจ จ้างแรงงาน แม้ตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง แห่ง
ของศาลยุติธรรม พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชนฯ บัญญัติว่า
กิจการของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนไม่อยู่ภายใต้
คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล บังคับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และ
ที่ ๑๔/๒๕๕๐ กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติงาน
คดีที่เอกชนยื่นฟ้องสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องได้รับผลประโยชน์
ว่าผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วย
ตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชนฯ การคุ้มครองแรงงาน ก็เป็นเพียงการกำหนดมิให้
จ้างผู้ฟ้องคดีเป็นอาจารย์ เป็นที่ปรึกษา และงานอื่น ๆ นำกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของผู้ถูกฟ้องคดี ต่อมาผู้ถูกฟ้องคดี ว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์มาใช้บังคับเท่านั้น กรณีจึงเป็น
งดจ่ายเงินเดือนให้แก่ผู้ฟ้องคดีโดยไม่ทราบสาเหตุ คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญา
อ้างว่าผู้ฟ้องคดีกระทำผิดข้อตกลงด้วยวาจากับ จ้างแรงงานหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
อธิการบดีของผู้ถูกฟ้องคดีและมีนักศึกษาร้องเรียนว่า อันอยู่ในอำนาจของศาลแรงงานตามพระราชบัญญัติ
ผู้ฟ้องคดีกระทำผิดจรรยาบรรณของการเป็นอาจารย์ จัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา ๘ วรรคหนึ่ง (๑)
ซึ่งเป็นความผิดวินัยที่ร้ายแรง ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีจ่าย คดีจึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครอง ตามมาตรา ๙
ค่าจ้างที่ค้างจ่ายพร้อมดอกเบี้ย ให้รับผู้ฟ้องคดีกลับเข้า วรรคสอง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ
ทำงานและจัดการเรียนการสอน พร้อมทั้งจ่ายเงินเดือน แต่เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม
ประจำและสิทธิประโยชน์ที่อาจารย์ประจำควรจะได้รับ
ตามกฎหมายจนกว่าจะสิ้นสภาพความเป็นพนักงาน คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
และให้จ่ายค่าตอบแทนพิเศษที่ผู้ฟ้องคดีสอนเกินกว่า ที่ ๒๕/๒๕๔๙
เกณฑ์มาตรฐานพร้อมดอกเบี้ย ผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี คดีที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่ง
ต่างก็เป็นเอกชน เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีจ้างผู้ฟ้องคดีเป็น ประเทศไทย (อ.ส.ค.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ยื่นฟ้อง
อาจารย์ทำหน้าที่หลักด้านการสอนภายใต้ระเบียบ เจ้าหน้าที่ในสังกัดว่าทำละเมิดผิดสัญญาจ้าง ละเว้น
ข้อบังคับของผู้ถูกฟ้องคดี โดยจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ทำให้ได้รับ
ผู้ฟ้องคดีตลอดเวลาที่ทำงานให้ผู้ถูกฟ้องคดี สัญญา ความเสียหาย ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย
ระหว่างผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดีมีลักษณะเป็นสัญญา เมื่อโจทก์มีวัตถุประสงค์อันเป็นไปในลักษณะของธุรกิจ
จ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การค้าตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การส่งเสริม
มาตรา ๕๗๕ การที่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีผิด กิจการโคนมแห่งประเทศไทยฯ มาตรา ๗ การที่จำเลย
ข้อตกลงตามสัญญาจ้างระหว่างผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดี ซึ่งเป็นพนักงานตกลงเข้าทำงานกับโจทก์ซึ่งเป็น
ทั้งมีคำขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีจ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่าย หน่วยงานของรัฐและเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีวัตถุประสงค์
พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งจัดวิชาให้ผู้ฟ้องคดีสอน ในการดำเนินกิจการไปในเชิงธุรกิจการค้า ความสัมพันธ ์
หากไม่ปฏิบัติขอให้จ่ายค่าชดเชยและค่าทดแทน ระหว่างโจทก์กับพนักงานย่อมมีขึ้นเพื่อดำเนินกิจการ
62 ร า ย ง า น ป ร ะ จ ำ ปี ๒ ๕ ๖ ๔
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล