Page 106 - สรุปแนวคำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลในคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาฯ
P. 106
ั
พิจารณาว่าลักษณะการประกอบกิจการอันเป็นเหตุพิพาทน้นเป็นการ
�
ื
�
�
ดาเนินธุรกิจเช่นเดียวกับเอกชนหรือเป็นการใช้อานาจรัฐเพ่อดาเนิน
ื
กิจการบริการสาธารณะ เม่อพิจารณาลักษณะของสัญญาพิพาทเป็น
ี
�
ึ
ี
�
ี
ื
สัญญาท่โจทก์ตกลงให้จาเลยซ่งเป็นเอกชนเช่าท่ดินเพ่อใช้พ้นท่จาหน่าย
ื
�
สินค้า โดยโจทก์ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินค่าเช่า อันเป็นการดาเนินการ
ิ
ิ
ี
ี
ั
ั
่
ในเชงพาณชย์เช่นเดยวกบเอกชนทัวไป ไม่มลกษณะเป็นการใช้
ิ
�
ื
อานาจรัฐหรือเอกสิทธ์ของรัฐเพ่อจัดทาบริการสาธารณะด้านการขนส่ง
�
�
ั
ทางรถไฟตามอานาจหน้าที่ของโจทก์ ท้งสัญญาพิพาทไม่มีลักษณะเป็น
สัญญาทางปกครอง สัญญาพิพาทในคดีน้จึงเป็นเพียงสัญญาทางแพ่งท ่ ี
ี
มีคู่สัญญาฝ่ายหน่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง แม้จะปรากฏข้อเท็จจริง
ึ
�
ื
ื
ในคดีว่าจาเลยและผู้ค้ารายอ่นได้ย่นฟ้องโจทก์ต่อศาลปกครองกลาง
และศาลปกครองกลางได้มีคาพิพากษาให้เพิกถอนประกาศของโจทก์
�
ท้งห้าฉบับท่เรียกให้ผู้ค้าแผงค้าในพ้นท่ตลาดนัดจตุจักรไปทาสัญญาเช่า
ี
ื
�
ั
ี
�
ี
ในอัตราค่าเช่าท่โจทก์กาหนด อันเป็นมูลเหตุข้อพิพาทในคดีน้แล้ว โดย
ี
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดก็ตาม แต่ประเด็นแห่ง
ื
ี
คดีน้เป็นเร่องการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการปฏิบัติผิดสัญญาระหว่าง
ึ
ี
ี
โจทก์กับจาเลย อันเป็นข้อพิพาทเก่ยวกับสิทธิหน้าท่ตามสัญญาซ่งเป็น
�
คนละประเด็นกับคดีดังกล่าวของศาลปกครอง และเม่อได้วินิจฉัยแล้ว
ื
�
ี
ว่าสัญญาพิพาทระหว่างโจทก์กับจาเลยเป็นสัญญาทางแพ่ง คดีน้จึงอยู่
�
ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
ี
�
�
ี
ี
คาวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลท่ ๑๗๒/๒๕๖๑
ื
คดีท่โจทก์เป็นเอกชน ย่นฟ้ององค์การตลาดเพ่อเกษตรกร จาเลยท่ 1
ื
ี
�
ี
ั
�
ี
และจาเลยท่ 2 พนักงานสังกัดจาเลยท่ 1 ขอให้จาเลยท้งสองร่วมกัน
ี
�
�
่
ชาระค่าเช่าคลงสินค้าพร้อมดอกเบย จากการทจาเลยท 1 ทาสญญา
ี
ั
ั
�
ี
ี
่
�
�
้
95