Page 209 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 209

ดุลพาห




            หรือไม่ รัฐบาลอิตาลียืนยันว่าตามกฎหมายแล้วโจทก์มีช่องทางเยียวยา ๒ สองทางตามมาตรา
            ๖๗๐ และมาตรา ๑๗๕ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอิตาลี สำาหรับช่องทาง

            แรกคือ การเพิกถอนสภาพบังคับของคำาพิพากษานั้น ในทางทฤษฎีการกล่าวอ้างว่าส่งหมาย
            เรียกและสำาเนาคำาฟ้องไม่ชอบก็มีผลในการเพิกถอนสภาพบังคับของคำาพิพากษาได้ แต่ในกรณี

            ของโจทก์ ตามกฎหมายอิตาลีการส่งหมายไปยังภูมิลำาเนาตามที่ปรากฏหลักฐานถือเป็นการ
            ส่งโดยชอบ โจทก์จึงไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ ส่วนมาตรการที่ ๒ คือ การขออนุญาต

            อุทธรณ์เมื่อพ้นกำาหนดเวลานั้น ตามกฎหมายอิตาลีกำาหนดให้ผู้จะใช้สิทธิต้องมีภาระการ
            พิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้จงใจหลีกเลี่ยงกระบวนพิจารณาหรือหลบหนี ซึ่งขัดกับแนวการวินิจฉัย

            ของศาลดังวินิจฉัยมาแล้วว่าจำาเลยที่ถูกพิจารณาลับหลังไม่พึงมีภาระการพิสูจน์เหตุที่ตนไม่มา
            ศาล และในกรณีนี้ โจทก์จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหลังจากผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว ทำาไมตนเอง
            จึงออกจากภูมิลำาเนาโดยไม่แจ้งใครว่าไปที่ใดแล้วมาปรากฏตัวที่ประเทศเยอรมนี นอกจากนั้น

            ตามกฎหมายยังกำาหนดว่าหลังจากทราบเรื่องที่ถูกดำาเนินคดีแล้ว จะต้องยื่นคำาขออนุญาต
            อุทธรณ์ภายใน ๑๐ วัน ซึ่งในคดีนี้ หลังจากโจทก์ถูกจับที่ประเทศเยอรมนี เวลา ๑๐ วันก็เริ่ม

            นับแล้ว ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานว่าตั้งแต่ถูกจับมีใครแจ้งสิทธินี้ให้โจทก์ทราบ ทั้งการที่โจทก์ซึ่ง
            อยู่ระหว่างต่อสู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนในศาลเยอรมนี จะต้องไปยื่นคำาร้องขออนุญาตอุทธรณ์ที่
            ศาลอิตาลีด้วยในเวลาเดียวกันย่อมมีความยุ่งยาก เพราะต้องหาทนายความในประเทศเยอรมนี

            ที่เชี่ยวชาญกฎหมายอิตาลีด้วย ด้วยเหตุดังวินิจฉัยมาเป็นลำาดับศาลจึงเห็นว่ามาตรการเยียวยา
            ตามกฎหมายภายในไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการคุ้มครองสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดี

            ด้วยความเป็นธรรมของโจทก์ในคดีนี้


            ๓. ผลคำาพิพากษา


                       ศาลมีคำาพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีด้วยเหตุผลว่าโจทก์ซึ่งไม่ได้หลบเลี่ยงการ

            พิจารณาคดีหรือสละสิทธิที่จะเข้าร่วมการพิจารณาคดีโดยชัดแจ้ง แต่กลับถูกพิจารณาคดี
            ลับหลัง โดยไม่มีโอกาสที่จะรื้อฟื้นคดีซึ่งเป็นการฝ่าฝืนข้อ ๖ ของอนุสัญญายุโรปว่าด้วย

            สิทธิมนุษยชน โดยศาลวินิจฉัยต่อไปว่าการฝ่าฝืนอนุสัญญาของประเทศอิตาลีเป็นปัญหาใน
            เชิงระบบที่เกิดจากบทบัญญัติกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะคดีนี้เท่านั้น ซึ่งก็ได้ความว่าก่อน

            ศาลมีคำาพิพากษาคดีนี้ อิตาลีได้แก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๕

            โดยกำาหนดให้ระยะเวลายื่นคำาร้องขออนุญาตอุทธรณ์เริ่มนับเมื่อจำาเลยในคดีถูกส่งตัวมาอยู่ใน
            ความควบคุมของเจ้าพนักงานประเทศอิตาลีแล้ว และมีเวลายื่นคำาขอ ๓๐ วัน จากเดิม ๑๐ วัน




            198                                                              เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕
   204   205   206   207   208   209   210   211   212   213   214