Page 79 - รายงานประจำปี 2563
P. 79
�
ประเด็นท่สอง กรอบระยะเวลาการวินิจฉัย วินิจฉัยและออกเป็นคาวินิจฉัยต่อไป เลขานการ
ี
ุ
�
ช้ขาดท่ไม่ชัดเจน จากเดิมในมาตรา ๑๐ (๓) กาหนด คณะกรรมการจึงเป็นผู้ท่มีบทบาทท่สาคัญเป็น
ี
ี
ี
ี
�
ี
ื
ิ
ิ
เวลาวินิจฉัยช้ขาดให้เสร็จส้นภายใน ๓๐ วัน นับแต ่ อย่างย่ง เพ่อให้การเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ
ึ
ื
วันท่ได้รับเร่อง ซ่งมีปัญหาในทางปฏิบัติว่าจะ มีความละเอียด รอบคอบ รวดเร็วและถูกต้องตาม
ี
�
นับแต่เม่อไร จึงเห็นสมควรแก้ไขถ้อยคาให้ชัดเจน หลักกฎหมายจึงเห็นสมควรแก้ไขมาตรา ๑๘
ื
�
เป็นว่า ๓๐ วัน นับแต่คณะกรรมการมีมติรับเรื่อง และมาตรา ๑๙ กาหนดให้มีผู้ช่วยเลขานุการ
�
ี
เพื่อให้เกิดความชัดเจน ว่าเป็นวันที่คณะกรรมการ คณะกรรมการ เพ่อทาหน้าท่ช่วยเหลืองาน
ื
มีมติ ไม่ใช่วันท่ฝ่ายเลขานุการซ่งเป็นส่วนธุรการ ของเลขานุการคณะกรรมการในการปฏิบัติหน้าท ่ ี
ี
ึ
รับเรื่องเข้าส�านักงาน ดังกล่าว ซึ่งมีส่วนส�าคัญที่จะช่วยเลขานุการ
ประเด็นที่สาม กรอบระยะเวลาการวินิจฉัย ประเด็นท่ห้า ปรับปรุงคุณสมบัติของ
ี
ี
ช้ขาดกรณีคาพิพากษาหรือคาส่งท่ถึงท่สุดระหว่าง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๖ (๓)
�
ั
�
ี
ี
ศาลขัดแย้งกัน มาตรา ๑๔ วรรคสาม ก�าหนดระยะ คณะกรรมการมีการอภิปรายถึงคุณสมบัติของ
�
เวลาทาคาวินิจฉัยกรณีคาพิพากษาหรือคาส่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๖ (๓) แห่ง
�
ั
�
�
ี
ถึงที่สุดขัดแย้งกัน ซึ่งเดิมก�าหนดไว้เพียง ๓๐ วัน พระราชบัญญัติท่กาหนดว่าต้องไม่เป็นพนักงาน
�
แต่คณะกรรมการเห็นว่าการวินิจฉยดังกล่าวอาจม ี หรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐว่าเป็นอุปสรรค
ั
�
ี
ื
ั
ี
�
�
ผลทาให้คาพิพากษาหรือคาส่งถึงท่สุดของศาลใด เน่องจากขณะน้นักวิชาการหรืออาจารย์ในมหาวิทยาลัย
�
ึ
ิ
ศาลหน่งส้นผลหรือเปล่ยนแปลงไปจึงจาเป็นต้อง ที่เป็นข้าราชการอีกไม่กี่ปี ก็จะเป็นพนักงานของรัฐ
ี
พิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ จึงเห็นสมควร ในมหาวิทยาลัยหมด จึงควรแก้ไขโดยตัดข้อห้ามนี้
่
่
ี
่
ี
ี
แก้ไขให้วินิจฉัยให้เสร็จภายใน ๖๐ วัน จาก ๓๐ เพอเปนการเปดกวางให้บคคลทมความรเชยวชาญ
ิ
้
ู
้
ื
็
ุ
ี
ื
เป็น ๖๐ วัน นับแต่วันท่คณะกรรมการมีมติรับเร่อง จริง ๆ มาเป็นกรรมการทรงคุณวุฒิ
ี
แต่ถ้ามีเหตุผลจาเป็นก็สามารถขยายได้ไม่เกิน ต่อมาเม่อวันท่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๐
ื
�
5
๙๐ วัน ในการประชมคณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจ
ุ
ี
�
ี
่
ี
�
ประเด็นท่ส กาหนดให้มีผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ระหว่างศาล คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบ
�
มาตรา ๑๘ กาหนดให้เลขานุการศาลฎีกา ให้แก้ไข ดังนี้
เป็นเลขานุการคณะกรรมการโดยตาแหน่งมีอานาจ ๑. ประเด็นการปรับปรุงคุณสมบัติของ
�
�
หน้าท่รวบรวมความเห็น คาร้อง คาช้แจง และ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๖ (๓) มีมติให้
�
ี
�
ี
ิ
�
ั
เอกสารท้งปวงทจาเป็นต่อการพิจารณาวนิจฉยของ ยกเลิกความในมาตรา ๖ (๓) แห่งพระราชบัญญัติ
่
ั
ี
�
�
ี
คณะกรรมการแล้วทาบันทึกสรุปข้อเท็จจริงและ ว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล
ี
�
จัดทาความเห็นเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา พ.ศ. ๒๕๔๒
5 การประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดฯ ครั้งที่ ๗/๒๕๖๐ วันศุกร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา
ณ ห้องประชุมศาลยุติธรรม ชั้น ๕ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล ๗๗