Page 81 - รายงานประจำปี 2563
P. 81
ิ
และให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๙ หมายถึง เสร็จส้นการแสวงหาข้อเท็จจริงและ
�
ี
ึ
แห่งพระราชบัญญัติ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ใกล้เวลาท่จะมีคาพิพากษาแล้ว ซ่งการกาหนดระยะ
�
“มาตรา ๑๙ ให้คณะกรรมการ เลขานุการ เวลายื่น ค�าร้องไว้ในลักษณะดังกล่าวอาจเป็นระยะ
ี
คณะกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ เวลาท่นานเกินไปอาจเป็นช่องทางให้คู่ความใช้ใน
ได้รับประโยชน์ตอบแทนตามท่กาหนดในพระราช การประวิงคดีมีผลกระทบต่อกระบวนพิจารณาและ
ี
�
�
ี
กฤษฎีกา” คู่ความท่สุจริต ทาให้คดีต้องเข้าสู่กระบวนการ
ี
่
ู
ต่อมาสานักงานเลขานุการคณะกรรมการฯ วนิจฉยชขาดเขตอานาจศาลท้งทคดได้เข้าส่การ
�
�
ี
ิ
ั
้
ี
ั
ื
ิ
ิ
�
�
ส่งเร่องแก้ไขเพ่มเติมกฎหมายให้สานักงาน ดาเนินกระบวนพิจารณาของศาลจนเกือบส้นสุด
�
ื
ศาลยุติธรรมเพ่อนาเสนอคณะกรรมการบริหาร กระบวนการแล้ว และในระหว่างเข้าสู่กระบวนการ
ึ
�
ุ
ิ
ี
ิ
ศาลยุติธรรม ซ่งคณะกรรมการบรหารศาลยตธรรม วินิจฉัยช้ขาดเขตอานาจศาลให้ศาลมีดุลพินิจ
ี
ี
ี
ให้ความเห็นชอบตามท่เสนอ คงมีในส่วนท่เสนอ ในการพิจารณาคดต่อไปได้แต่ให้รอการพิพากษา
แก้ไขคุณสมบัติของผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๖ (๓) ซึ่งช่วยลดการประวิงคดีได้อีกทางหนึ่งด้วย
ั
ี
ิ
แห่งพระราชบัญญัติเท่าน้นท่ไม่ได้รับความเห็นชอบ และแก้ไขเพ่มเติมวันรับเร่องของคณะกรรมการ
ื
สานกงานศาลยตธรรมจงนาเรองเข้าส่ ู เพ่อพิจารณาวินิจฉัยกรณีเขตอานาจศาลขัดแย้งกัน
ิ
ึ
�
ื
่
�
ื
ุ
ั
�
�
ี
ิ
่
ิ
กระบวนการแก้ไขกฎหมายจนสาเร็จเป็นพระราช ให้มความชดเจน (แก้ไขเพมเตม มาตรา ๑๐
ั
�
บัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท ่ ี วรรคหนึ่ง (๓)
ี
ื
ื
ระหว่างศาล (ฉบับท่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยม ี เน่องจากในทางปฏิบัติมีการรับเร่อง
ี
ื
สาระส�าคัญในการแก้ไข ดังนี้ ในทางธุรการกับมีการรับเร่องของคณะกรรมการ
ี
๑. แก้ไขเพ่มเติมกรอบระยะเวลาของ เพ่อพิจารณาวินิจฉัย แต่กฎหมายท่ใช้ในปัจจุบัน
ิ
ื
กระบวนการโต้แย้งเขตอ�านาจศาล และในระหว่าง ไม่มีความชัดเจน จึงเห็นสมควรแก้ไขให้มีความ
ี
เข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยช้ขาดเขตอานาจศาล เหมาะสมชัดเจนยิ่งขึ้น
�
ให้ศาลท่รับฟ้องมีดุลพินิจในการพิจารณาคด ี ๒. แก้ไขเพ่มเติมระยะเวลาการพิจารณา
ิ
ี
ิ
่
�
ึ
่
ิ
ี
ต่อไปได้ (แก้ไขเพมเตมมาตรา ๑๐ วรรคหนง) คาร้องขอให้คณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยช้ขาด
ื
่
่
่
ั
ี
ื
ั
�
เนองจากเงอนไขเกยวกบระยะเวลาการโต้แย้ง กรณีคาพิพากษาหรือคาส่งท่ถึงท่สุดระหว่างศาล
ี
�
ี
ในส่วนของศาลยุติธรรมและศาลทหารกฎหมาย ขัดแย้งกัน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๔)
กาหนดว่า “ต้องโต้แย้งก่อนการสืบพยาน” กรณ ี เน่องจากกรณีการวินิจฉัยวางแนวปฏิบัต ิ
ื
�
ั
ิ
�
มีข้อพจารณาว่า จะเป็นระยะเวลาท่นานเกินไป ตามคาพิพากษาหรือคาส่งท่ถึงท่สุดระหว่างศาล
ี
�
ี
ี
ื
ื
เน่องจากเม่อจาเลยได้รับคาฟ้องแล้ว ย่อมพิจารณา ขัดแย้งกันน้น อาจมีผลทาให้คาพิพากษาหรือ
�
�
ั
�
�
�
ิ
�
่
ื
ได้ว่าคดีของตนมีปัญหาเร่องเขตอานาจศาลหรือไม่ คาสงทถงทสดของศาลใดศาลหนงสนผลหรอ
ื
้
ึ
่
ึ
ุ
ี
ั
่
่
ี
�
ี
�
ในส่วนของศาลปกครองกฎหมายกาหนดให้ เปล่ยนแปลงไป จึงมีความจาเป็นต้องพิจารณาด้วย
ั
“ต้องโต้แย้งก่อนวันน่งพิจารณาคดีคร้งแรก” ความละเอียดรอบคอบ ไม่อาจใช้ระยะเวลาพิจารณา
ั
ซ่งวันน่งพิจารณาคดีคร้งแรกในศาลปกครอง เท่ากับการพิจารณาเรื่องเขตอ�านาจศาลได้ เพื่อให้
ึ
ั
ั
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล ๗๙