Page 94 - รายงานประจำปี 2563
P. 94
�
�
การกระทาละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือ แห่งพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบริหาร
ี
ั
ี
เจ้าหน้าท่ของรัฐในคดีท่เก่ยวกับท่ดินหากในคดีน้น ส่วนต�าบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และจ�าเลยที่ ๒ ซึ่งเป็น
ี
ี
ิ
มีประเด็นท่ศาลจะต้องวินิจฉัยให้ได้ความเก่ยวกับ เจ้าพนักงานท้องถ่น ตามมาตรา ๔ แห่งพระราช
ี
ี
�
ี
ื
เร่องท่ดินว่าเป็นของใคร เม่อวินิจฉัยได้ความ บัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มีอานาจหน้าท ี ่
ื
เช่นไรแล้วก็สามารถพิพากษาคดีได้ โดยไม่จ�าต้อง เก่ยวกับการออกใบอนญาตก่อสร้าง ดดแปลง
ุ
ี
ั
�
ตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการกระทา รื้อถอน หรือเคลื่อนย้าย รวมทั้งด�าเนินการในกรณี
็
ู
่
ิ
ี
ิ
ั
ี
ิ
ี
ี
่
่
ี
ี
ทางปกครอง คดทเกยวกบสทธในทดนกอย่ใน ท่มีการกระทาท่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัต ิ
�
เขตอานาจของศาลยุติธรรม แต่หากคดี ไม่ม ี ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ กฎกระทรวง หรือ
�
ี
ิ
ประเด็นโต้แย้งเก่ยวกับสิทธิในท่ดินหรือประเด็น ข้อบัญญัติท้องถ่นท่ออกตามพระราชบัญญัติน ้ ี
ี
ี
ี
ี
ข้อพิพาทเก่ยวกับสิทธิในท่ดินยุติแล้ว และเป็น ดังนั้นการที่จ�าเลยที่ ๑ โดยจ�าเลยที่ ๒ ใช้อ�านาจ
�
การฟ้องคดีเพ่อตรวจสอบการกระทาของ ตามบทบัญญัติดังกล่าว โดยมีค�าสั่งให้โจทก์ทั้งหก
ื
ฝ่ายปกครองย่อมเป็นคดีท่อยู่ในเขตอานาจ ซ่งเป็นผ้ครอบครองอาคารทปลกสร้างในทดน
ิ
ี
ู
ึ
ี
่
ี
�
่
ู
ี
�
�
ี
ึ
ศาลปกครอง ซ่งหลักในการวินิจฉัยการกระทาละเมิด พิพาท ซ่งจาเลยท่ ๑ และท่ ๒ ให้การยืนยันโดยอ้าง
ึ
ของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าท่ของรัฐ คาพิพากษาศาลฎีกาท่ ๕๕๒๔/๒๕๕๕ ว่าเป็น
�
ี
ี
�
ั
ื
ี
ี
ท่อยู่ในเขตอานาจศาลปกครอง กรณีใดเป็น ท่สาธารณะ จึงให้โจทก์ท้งหกร้อถอนอาคาร
ี
คดีละเมิดท่อยู่ในเขตอานาจศาลปกครอง ออกจากที่ดินพิพาท ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่สามารถแก้ไข
�
ี
ี
ื
มีองค์ประกอบท่จะต้องพิจารณาคือเป็นข้อพิพาท ให้ถูกต้องได้ เน่องจากปลูกสร้างในท่สาธารณ
เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ในทางปกครองของ ประโยชน์ แต่โจทก์ทั้งหกไม่รื้อถอนอาคารออกจาก
ี
�
ี
�
ื
ี
เจ้าหน้าที่ของรัฐ และจะต้องเกิดจากการใช้อ�านาจ ท่ดินพิพาท เม่อครบกาหนดระยะเวลาจาเลยท่ ๒
�
ี
�
�
ั
ั
ั
ตามกฎหมาย หรือเกิดจากการออก กฎ คาส่ง ในฐานะผู้แทนของจาเลยท่ ๑ ได้มีคาส่งแต่งต้ง
ทางปกครอง หรือค�าสั่งอื่น หรือเกิดจากการละเลย จ�าเลยที่ ๒ ถึงที่ ๔ ที่ ๗ และที่ ๘ รื้อถอนอาคาร
ั
หน้าท่ตามกฎหมายกาหนดให้ต้องปฏิบัติ หากขาด และปักเสาก้นเขตในท่ดินพิพาทโดยอาศัยอานาจ
�
ี
ี
�
ี
ี
ึ
ประการใดประการหน่งไม่ถือว่าเป็นคดีละเมิดท่อยู่ หน้าท่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย
ี
ในเขตอ�านาจของศาลปกครอง การดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันท่ดินอันเป็น
ตัวอย่าง แนวคาวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ สาธารณสมบัติของแผ่นดินสาหรับพลเมือง
�
�
ี
�
ึ
เก่ยวกับการกระทาละเมิดของหน่วยงานทาง ใช้ร่วมกัน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซ่งโจทก์ท้งหกอ้างว่า
ั
ี
ั
�
ี
ี
ี
ปกครองหรือเจ้าหน้าท่ของรัฐในคดีท่เก่ยวกับท่ดิน ทาให้โจทก์ท้งหกได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลม ี
ั
�
�
ที่อยู่ในเขตอ�านาจพิจารณาพิพากษาศาลปกครอง คาพิพากษาหรือคาส่งให้จาเลยท้งแปดชดใช้
�
ั
ี
คำาวินิจฉัยช้ขาดอำานาจหน้าท่ระหว่างศาล ค่าเสียหายและค่าขาดรายได้ให้แก่โจทก์ท้งหก
ี
ั
�
ท่ ๘๒/๒๕๖๑ มูลเหตุแห่งการฟ้องคดีน และให้ขับไล่จาเลยท้งแปดหรือบริวารจาเลย
�
ี
ี
้
ั
�
ั
ี
สืบเนื่องมาจากการที่จ�าเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นหน่วยงาน ท้งแปดและทรัพย์ใด ๆ ท่นามาวางปักไว้ให้ถอน
�
ึ
ั
ื
ของรัฐ มีอานาจตามมาตรา ๖๐ วรรคหน่ง ออกจากท่ดินของโจทก์ท้งหกและร้อถอนเสาปูน
ี
๙๒ รายงานประจำาปี ๒๕๖๓