Page 99 - รายงานประจำปี 2563
P. 99
ี
ี
�
�
ในคดีน้จึงมีว่าการท่ผู้ถูกฟ้องคดีทาลายหลัก เป็นของผู้ฟ้องคดี ประกอบกับคาให้การของผู้ถูก
้
ี
เขตเดิมและปักหลักเขตใหม่รุกลาเข้ามาในท่ดิน ฟ้องคดี (กรมชลประทาน) เห็นได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดี
�
ของผู้ฟ้องคดี โดยท่ยังไม่มีการตรวจสอบแนว (กรมชลประทาน) เป็นหน่วยงานทางปกครอง
ี
ี
ึ
�
่
ั
�
เขตท่ดินอย่างชัดแจ้งน้น เป็นการกระทาท ซ่งกฎหมายได้ให้อานาจต่าง ๆ แก่ผู้ถูกฟ้องคด ี
ี
้
ึ
�
ชอบด้วยกฎหมายและเป็นละเมิดแก่ผู้ฟ้องคด เพ่อใช้ในการดาเนินกิจการเพ่อให้ได้มาซ่งนาหรือ
ื
�
ี
ื
ั
ี
้
�
ั
ื
�
หรือไม่ ท้งผู้ฟ้องคดีช้แจงข้อเท็จจริงตามคาส่ง เพ่อกักเก็บรักษาควบคุม ส่งระบายหรือแบ่งนา
ศาลปกครองอุดรธานี ตามข้อ ๑๗ ของข้อบังคับ เพื่อเกษตรกรรม ฯลฯ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีท�าการปัก
คณะกรรมการวนิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล หลักเขตใหม่เพ่อทดแทนหลักเขตชลประทานเดิม
ี
ิ
ี
�
ื
ี
ี
ื
ว่าด้วยการเสนอเร่อง การพิจารณาและวินิจฉัย ความเสียหายท่เกิดแก่ผู้ฟ้องคดีในกรณีน้จึงเป็น
พ.ศ. ๒๕๔๔ ว่า ผู้ฟ้องคดีไม่ต้องการพิสูจน์ว่า ผลสืบเน่องมาจากการใช้อานาจตามกฎหมาย
ื
�
�
ิ
่
ี
�
ทดนพิพาทเป็นของผู้ใด แต่ต้องการเรียกร้อง ในการจัดทาบริการสาธารณะตามอานาจหน้าท ่ ี
ี
ค่าเสียหาย คดีน้จึงเป็นคดีพิพาทเก่ยวกับ ของผู้ถูกฟ้องคดีแต่เพียงประเด็นเดียว อันเป็น
ี
�
ี
�
การกระทาละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือ ประเด็นเก่ยวกับการกระทาละเมิดของหน่วยงาน
เจ้าหน้าท่ของรัฐ อันเกิดจากการใช้อานาจตาม ทางปกครองอันเกิดจากการใช้อานาจตามกฎหมาย
ี
�
�
กฎหมาย มิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน เป็นส�าคัญ
�
ี
ผู้เขียนเห็นว่า หากพิจารณาคาฟ้อง ข้อสังเกต แม้คดีน้แม้ผู้ถูกฟ้องคด ี
ี
คาให้การ เห็นได้ว่า คดีน้มีประเด็นเก่ยวกับ (กรมชลประทาน) ได้มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดิน
ี
�
�
การกระทาละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือ อุดรธานี เพ่อให้ส่งช่างรังวัดมาทาการรังวัดสอบ
�
ื
่
่
เจ้าหน้าท่ของรัฐในคดีท่เก่ยวกับท่ดิน แต่การ เขตทดนเพอให้ทราบข้อเทจจรงในเรองแนวเขต
ี
ิ
่
ื
็
ี
ื
ี
ี
ิ
ี
�
ี
บรรยายฟ้องของผู้ฟ้องคดีเช่นน้ สาระสาคัญ ของกรมชลประทานและแนวเขตที่ดิน ประกอบกับ
็
ี
ี
ู
�
่
ื
ื
แห่งคดีเพ่อให้เหนว่าเจ้าหน้าทของผ้ถกฟ้องคด ระหว่างพิจารณาคดีผู้ถูกฟ้องคดีย่นคาร้องโต้แย้ง
ู
้
�
ี
ี
ิ
็
ี
�
ิ
�
่
ิ
(กรมชลประทาน) นาหลักเขตคลองส่งนาชลประทาน เขตอานาจศาลว่าเปนคดพพาทเกยวกับสิทธในท่ดน
ี
มาปักใหม่ในท่ดินของผู้ฟ้องคดี และมีการทุบ อยู่ในอานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
�
ี
�
�
ทาลายหลักเขตชลประทานเดิมออก ทาให้ผู้ฟ้องคด ี ก็ตาม แต่คดีน้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ฟ้องคด ี
ได้รับความเสียหาย และขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ ไม่ต้องการพิสูจน์ว่าท่ดินเป็นของผู้ใด แต่ต้องการ
ี
�
ั
ื
ค่าเสียหาย ท้งเม่อพิจารณาคาขอท้ายฟ้องแล้ว เรียกร้องค่าเสียหายจากการสร้างร้วคอนกรีต
ั
ื
ั
�
�
ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลมีคาพิพากษาหรือคาส่งให้ การร้อถอน การแก้ไขตัวบ้านให้อยู่ในแนวเขต
้
ึ
ั
ี
ิ
ั
่
ผู้ถูกฟ้องคดีย้ายหลักเขตชลประทานดังกล่าว หลังจากมการรังวดใหม่เท่านน ซงต้องพจารณา
ี
กลับท่เดิมและขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย โดยผู้ฟ้องคด ี เก่ยวกับผลสืบเน่องมาจากการใช้อานาจตาม
ี
ื
�
�
ิ
ั
ี
ิ
็
ไม่ได้บรรยายประเดนเกยวกบสทธในทดนโดยการ กฎหมายในการจดทาบรการสาธารณะตามอานาจ
ี
่
ั
�
ิ
ิ
่
ี
อ้างความเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์หรือสิทธิครอบครอง หน้าท่ของผู้ถูกฟ้องคดีหรือไม่เป็นสาคัญ คดีน้จึง
�
ี
ิ
เพื่อให้ศาลจะต้องวินิจฉัยให้ได้ความว่าที่ดินพิพาท ไม่มีประเด็นเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล ๙๗