Page 134 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 134
ดุลพาห
มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน ทั้งการปรับปรุงบัญชีอัตราโทษของศาลมักอ้างอิงและเปรียบเทียบ
กับศาลข้างเคียงที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันหรือของศาลอุทธรณ์/ศาลอุทธรณ์ภาคที่มี
เขตอำานาจเหนือศาลนั้นๆ
ปัญหาของไทยจึงไม่ใช่การไม่มีความสมำ่าเสมอในการกำาหนดโทษ แต่คือปัญหาว่า
หลักเกณฑ์ในการสร้างความสมำ่าเสมอคือบัญชีอัตราโทษนั้นไม่เป็นที่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอก
แต่ละศาลตกลงหลักเกณฑ์เพื่อใช้ในการพิจารณาว่าความร้ายแรงของความผิดแต่ละประเภท
พิจารณาจากอะไร แต่ไม่เปิดเผยเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ตรวจสอบว่าศาลได้ใช้หลักเกณฑ์
นั้นจริงหรือไม่ หรือโต้แย้งได้ว่าหลักเกณฑ์นั้นถูกต้องหรือไม่ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ บัญชีอัตราโทษ
ของไทยไม่ได้ทำาหน้าที่ในการสร้างคำาอธิบายเกี่ยวกับความสมำ่าเสมอในการกำาหนดโทษต่อ
สาธารณะนั่นเอง
๓.๕ Sentencing guidelines ช่วยสร้างคำาอธิบายเกี่ยวกับความสมำ่าเสมอในการ
กำาหนดโทษต่อสาธารณะ (public account of consistency)
ปัญหาว่าแนวทางกำาหนดโทษในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเวลส์เป็นเครื่องมือในการ
สร้างความสมำ่าเสมอในการกำาหนดโทษได้หรือไม่นั้นยังเป็นข้อถกเถียงกันในทางวิชาการ
แต่เป็นที่ยอมรับกันว่าแนวทางการกำาหนดโทษดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดเผยต่อสาธารณะเป็นการ
สร้างคำาอธิบายต่อสาธารณะว่าผู้ที่กำาหนดแนวทางกำาหนดโทษดังกล่าวเห็นว่าความสมำ่าเสมอ
ในการกำาหนดโทษควรพิจารณาจากหลักเกณฑ์อย่างไร และคดีประเภทใดที่จะถือว่าเหมือน
หรือต่างกัน ซึ่งผู้เกี่ยวข้องสามารถอ้างอิงหลักเกณฑ์ดังกล่าวในการตรวจสอบการกำาหนดโทษ
ของศาลได้ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็น
โต้แย้ง และกระตุ้นเตือนให้ผู้กำาหนดแนวทางการกำาหนดโทษได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในอนาคต
หน้าที่สำาคัญของแนวทางการกำาหนดโทษจึงเป็นการสร้างความพร้อมรับผิดต่อสาธารณะในการ
กำาหนดโทษ (public accountability of sentencing) ในลักษณะที่บัญชีอัตราโทษหรือ
ยี่ต็อกของไทยทำาไม่ได้
๓.๖ ผู้พิพากษาควรมีความพร้อมรับผิด (accountability) ต่อใครบ้างในการกำาหนด
โทษอาญา
ในทางทฤษฎีแล้ว ผู้พิพากษาในประเทศประชาธิปไตยที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรม
ควรมีความพร้อมรับผิดในการกำาหนดโทษ ๓ ระดับ คือความพร้อมรับผิดภายในองค์กร
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 123