Page 138 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 138

ดุลพาห




               ชัดเจนว่าโทษที่ต้องรับจริงตามกฎหมายนั้นต้องไม่น้อยกว่าเท่าใด เช่น เยอรมนี กำาหนดว่า
               โทษจำาคุกตลอดชีวิตต้องได้รับโทษอย่างน้อย ๑๕ ปี


                 ๔.๒  ใครควรมีอำานาจอนุมัติการพักการลงโทษ


                        ทางปฏิบัติของประเทศต่างๆ ในการกำาหนดผู้มีอำานาจอนุมัติให้พักการลงโทษ
               มีความแตกต่างกัน สิ่งที่ต้องเน้นยำ้าอีกครั้งคือการกำาหนดโทษไม่ใช่อำานาจตุลาการ การที่
               บางประเทศให้ฝ่ายตุลาการเป็นผู้มีอำานาจอนุมัติการพักการลงโทษเป็นเหตุผลในเรื่อง

               ความน่าเชื่อถือของกระบวนการและการยอมรับในประเทศนั้นๆ เท่านั้น ในประเทศ

               civil law ส่วนใหญ่เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยี่ยม อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และสเปน
               เป็นอำานาจของศาล ส่วนในอังกฤษ สกอตแลนด์ และสหรัฐอเมริกาให้เป็นอำานาจ
               ของฝ่ายบริหารเช่นเดียวกับในประเทศไทย


                        เหตุผลสนับสนุนความคิดของผู้เขียนว่า อำานาจพักการลงโทษไม่ใช่อำานาจตุลาการ
               มาจากประสบการณ์ของประเทศเบลเยี่ยมซึ่งเป็นประเทศ civil law ที่เดิมกำาหนดให้อำานาจ

               ในการพักการลงโทษเป็นของฝ่ายบริหาร แต่ในปี ๑๙๙๖ เกิดคดี Dutroux ซึ่งผู้กระทำาผิด

               ที่ได้รับการพักการลงโทษโดยฝ่ายบริหารไปลักพาตัวและข่มขืนฆ่าเด็กหลายคน มีข้อเรียกร้อง
               จากสื่อมวลชนและสาธารณชนให้ยกเลิกกระบวนการพักการลงโทษไปทั้งหมด แต่รัฐบาล
               เห็นความจำาเป็นที่ต้องมีอยู่ แต่ต้องปรับกระบวนการคัดเลือกผู้ต้องขังที่จะพักการลงโทษ

               ให้น่าเชื่อถือมากขึ้น จึงแก้ไขกฎหมายในปี ๑๙๙๘ กำาหนดให้การพักการลงโทษกรณีที่ศาล

               จำาคุกไม่เกิน ๓ ปี ยังเป็นอำานาจของฝ่ายบริหารแต่โทษที่สูงเกินกว่านั้นให้เป็นอำานาจของ
               คณะกรรมการที่มีผู้พิพากษาเป็นประธาน


                        อย่างไรก็ดี หากศึกษาแนวคำาพิพากษาของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเกี่ยวกับ
               การพักการลงโทษจะพบว่ามีแนวโน้มที่แต่ละประเทศจะกำาหนดให้ผู้มีอำานาจพิจารณามี
               ความเป็นอิสระในลักษณะที่ไม่แตกต่างไปจากองค์กรตุลาการ ทั้งนี้ เนื่องจากศาลตีความว่า

               กระบวนการพิจารณาว่าจะพักการลงโทษหรือไม่ก็เป็น trial เช่นกัน ผู้ต้องขังจึงมีสิทธิ

               ได้รับการพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรมจากผู้พิจารณาที่มีความเป็นอิสระและเป็นกลาง
               ตามที่มาตรา ๖ ของอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชนรับรองไว้










               กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑                                                     127
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143