Page 176 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 176

ดุลพาห




                        (๔) ระยะเวลาการมีผลใช้บังคับของคำาเตือน
                                    ๒๖
                          ภายใน ๑ ปี นับแต่ลูกจ้างกระทำาผิด ไม่ใช่นับแต่รับทราบคำาเตือน ตัวอย่างจาก
               คำาพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวกับคำาเตือนมีมากมาย  ซึ่งผู้อ่านสามารถค้นคว้าในรายละเอียดได้
                                                         ๒๗
               ด้วยตนเอง

                        • พักงาน (โดยจ่ายค่าจ้าง)

                        มาตรการทางวินัยในกรณีนี้มุ่งประสงค์ตัดลูกจ้างออกจากสังคมองค์การเป็นการ
               ชั่วคราวเพื่อบอกให้เขารู้ว่า พฤติกรรมที่เขาประพฤติปฏิบัติออกมานั้นองค์การรับไม่ได้ และเขา

               ไม่สมควรอยู่ร่วมในสังคมแห่งนี้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้โอกาสแก่เขาพิจารณาถึงข้อบกพร่อง
               ของตนและปรับตัวปรับใจให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์การต่อไป แต่องค์การยังคงจ่าย

               ค่าจ้างให้ในระหว่างพักงาน ในกรณีนี้ลูกจ้างอาจจะชอบใจก็ได้เพราะเหมือนพักร้อนฟรี
               นอกเหนือข้อบังคับ ดังนั้นการลงโทษโดยวิธีนี้ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง


                        • พักงาน (โดยการไม่จ่ายค่าจ้าง)
                        กรณีคล้ายกับการพักงานในกรณีข้างต้น แต่ต่างกันตรงที่กรณีนี้ไม่จ่ายค่าจ้างให้

               ในระหว่างพักงาน จึงเป็นโทษที่หนักกว่าและมีลักษณะลงโทษทางเศรษฐกิจอีกด้วย


               ๒๖.  มาตรา ๑๑๙ (๔) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ บัญญัติว่า” นายจ้างไม่ต้องจ่าย
                    ค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่งเลิกจ้างในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้ (๔) ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำางาน
                    หรือระเบียบหรือคำาสั่งของนายจ้าง  อันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม  และนายจ้างได้ตักเตือนเป็น
                    หนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีร้ายแรง นายจ้างไม่จำาเป็นต้องตักเตือน  หนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกิน
                    หนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำาผิด”.
               ๒๗.  ตัวอย่างของคำาพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวกับคำาเตือน เช่น
                    (๑) ต้องเป็นหนังสือของนายจ้าง (ฎีกาที่ ๑๒๕๒/๒๕๒๖)
                    (๒) ถ้านายจ้างไม่ได้เตือนด้วยตนเอง ผู้เตือนต้องมีอำานาจเตือน (ฎีกาที่ ๑๕๔๓/๒๕๒๖)
                    (๓) มีถ้อยความระบุชัดเจนว่าเตือนเรื่องอะไร (ฎีกาที่ ๑๑๙๗/๒๕๒๖) และมีเนื้อความระบุว่าเป็นการ
                    เตือนอย่างชัดเจน (ฎีกาที่ ๒๒๙๕/๒๕๓๓)
                    (๔) การเตือนต้องเตือนลูกจ้างที่ทำาผิดโดยเฉพาะเจาะจงลงไป ไม่กล่าวลอยๆ หรือคลุมๆ (ฎีกาที่
                    ๓๖๐๑/๒๕๒๕)
                    (๕) เนื้อหาความผิด หากผิดข้อบังคับการทำางานข้อใดให้ระบุด้วย
                    (๖) ต้องมีข้อความห้ามกระทำาผิดซ้ำาอีก (ฎีกาที่ ๑๘๐/๒๕๒๖)
                    (๗)  ต้องฝ่าฝืนเรื่องเดียวกันกับที่ได้เคยเตือนไว้แล้ว  (ทำาความผิดซ้ำานั่นเอง)  จึงจะลงโทษเลิกจ้างได้
                    (ฎีกาที่ ๗๓/๒๕๒๔)
                    (๘) ต้องกระทำาผิดซ้ำาคำาเตือนในระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี นับแต่ที่ลูกจ้างกระทำาผิดครั้งแรก
                    (๙) ถ้าหนังสือเตือนระบุเงื่อนไขอย่างไรไว้ นายจ้างผู้เตือนต้องทำาตามเงื่อนไขโดยเคร่งครัด (ฎีกาที่
                    ๑๙๔๕-๑๙๔๘/๒๕๓๓).


               กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑                                                     165
   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181